‘ชัชชาติ’ วิ่งตี 5 คุยปัญหา ‘คนไร้บ้าน’ ให้กำลังใจพนักงานกวาดถนน เล็งพัฒนาอุปกรณ์ทุ่นแรง
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน เมื่อเวลาประมาณ 05.15 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กขณะวิ่งออกกำลังกาย โดยเริ่มต้นบริเวณลานคนเมือง เสาชิงช้า หน้าวัดสุทัศนเทพวรารามฯ เข้าสู่ย่าน ‘ประตูผี’ ถนนมหาไชย ผ่านวัดเทพธิดาราม, ลานมหาเจษฎาบดินทร์ โลหะปราสาทวัดราชนัดดาราม, ป้อมมหากาฬ และกำแพงเมืองซึ่งอยู่ระหว่างการบูรณะ ก่อนเข้าสู่ถนนราชดำเนินกลางเมื่อเวลาราว 05.25 น.
ระหว่างทาง นายชัชชาติเล่าถึงประวัติศาสตร์พื้นที่ รวมถึงการพัฒนาเมืองในแง่มุมต่างๆ รวมถึงประเด็นของ ‘คนไร้บ้าน’ ซึ่งนายชัชชาติเอ่ยถึงตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นวิ่ง โดยเน้นย้ำว่า กทม.ต้องดูแลตามสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่หลายคนไม่มีบัตรประชาชน เมื่อติดอยู่กับเลข 13 หลัก จึงเกิดปัญหาการเข้าถึงสิทธิเบื้องต้น มีแนวคิดฟื้น ‘บ้านอิ่มใจ’ กลับมา เพื่อให้การช่วยเหลือ เพราะหากไม่จำเป็น คงไม่มีใครอยากออกมานอนริมถนน
ทั้งนี้ เมื่อผ่านจุดต่างๆ ที่มีคนไร้บ้าน นายชัชชาติกล่าวถึงการอยู่อาศัยบนพื้นที่สาธารณะ ทั้งตรอก ซอกซอย บางส่วนนอนบนทางเท้า
เวลาราว 05.30 น. นายชัชชาติวิ่งถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าพูดคุยกับพนักงานทำความสะอาดของ กทม. ซึ่งกำลังกวาดพื้นถนน โดยสอบถามประเด็นอุปกรณ์ อาทิ ไม้กวาด และมีแนวคิดว่าควรนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาอุปกรณ์เพื่อทุ่นแรงให้คนทำงานสะดวกขึ้น
จากนั้น มุ่งหน้าสู่ท้องสนามหลวง และท่าพระจันทร์ตามลำดับ พบคนไร้บ้านอีกจำนวนหนึ่ง บางรายนอนหลับพักผ่อนหน้าตู้เอทีเอ็ม
นายชัชชาติกล่าวว่า ในการแก้ปัญหาต้องเริ่มต้นจากการยอมรับก่อนว่ามีปัญหา โดย กทม.จะเข้าไปดูแลเรื่องสิทธิ การลงทะเบียน และอื่นๆ
ระหว่างนี้ นายชัชชาติร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โดยกล่าวว่า แม้ตนไม่ได้จบการศึกษาจาก มธ. แต่ร้องได้ เพราะสมัยนั้นคนก็ร้องกัน ประกอบกับมีการแข่งกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย
เวลา 05.35 น. นายชัชชาติยืนไหว้สักการะพระแก้วมรกตและศาลหลักเมืองจากท้องสนามหลวง โดยกล่าวว่า เป็นสิริมงคลก่อนทำงาน
จากนั้น กล่าวถึง ‘อุโมงค์ทางลอด’ ถนนมหาราช-หน้าพระลาน ว่าเป็นสิ่งที่ดี นักท่องเที่ยวได้มีจุดพัก โดยระหว่างทาง มีประชาชนขอถ่ายภาพร่วมกันอย่างต่อเนื่อง สตรีสูงวัยรายหนึ่งซึ่งใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์เป็นประจำวันละ 200 รูป ชวนนายชัชชาติร่วมทำบุญ และส่งต่อถึงผู้ที่กำลังชมถ่ายทอดสดทุกคน
ต่อมา นายชัชชาติผ่าน ม.ศิลปากร วังท่าพระ และท่าช้าง ในช่วงหนึ่งพบมารดาและบุตรสาวที่เดินทางโดยนั่งรถทัวร์จากจังหวัดน่านมาเพื่อหาหอพักเนื่องจากบุตรสาวสอบติดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร นายชัชชาติเข้าพูดคุยสอบถามประเด็นต่างๆ
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเปิดท่าเรือท่าช้าง-สาทร เมื่อ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ไม่รู้จริงๆ ว่านายกฯมา ไม่มีใครบอก ตรงนี้เป็นพื้นที่กรมเจ้าท่า ไม่ใช่ กทม.
จากนั้น นายชัชชาติกล่าวถึงประเด็น ‘พื้นที่สาธารณะ’ ว่า กทม.ไม่ค่อยมีพื้นที่สาธารณะริมน้ำ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เอกชนที่มีเจ้าของ ก่อนหน้านี้ตนเดินทางมาที่นี่พร้อมนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ โดยคิดว่าอาจจัดแสดงดนตรีบริเวณนี้ดีหรือไม่
ต่อมา นายชัชชาติมุ่งหน้าสู่ท่าเตียน ระหว่างทางพบพนักงานกวาดถนนอีก นายชัชชาติเข้าพูดคุย โดยระบุว่า ได้พบ ‘เพื่อนร่วมงาน’ และกล่าวให้กำลังใจ สอบถามว่า ‘เหนื่อยไหม?’
เวลา 05.50 น. ถึงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ (วัดโพธิ์) ท่าเตียน นายชัชชาติเล่าถึงที่มาชื่อท่าเตียนจากนิทานซึ่งได้อ่านจากนิยายชุด ‘พล นิกร กิมหงวน’ ว่า ยักษ์วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวรารามฯ) และยักษ์วัดโพธิ์ ตีกัน ท่าจึงเตียน
จากนั้น เมื่อถึงชุมชนท่าเตียน ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงประเด็น ‘ชุมชนเข้มแข็ง’ โดย กทม.จะดูแลโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนชุมชนต้องดูแลตัวเองให้เข้มแข็งควบคู่กัน นอกจากนี้เมื่อผ่านร้านอาหาร โฮสเทล และร้านกาแฟในย่านดังกล่าว ยังระบุว่า ภาคเอกชน มีความคิดสร้างสรรค์ และเก่งกว่ารัฐ รัฐอย่าไปยุ่งมาก แค่ช่วยดูแลให้ความสะดวกในด้านต่างๆ จะเหมาะสมกว่า
เมื่อเวลาราว 06.00 น. ถึง ‘มิวเซียมสยาม’ นายชัชชาติชมว่าเป็นพื้นที่มีคุณภาพ อยากให้มีแบบนี้ทั่วกรุงเทพฯ จากนั้นวิ่งต่อไปจนถึง ร.ร.ราชินี และปากคลองตลาด โดยเข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ฝากดูแลการจราจร
จากนั้น นายชัชชาติแวะแผงดอกไม้ที่ปากคลองตลาดโดยเข้าเยี่ยมร้านดอกไม้ที่เคยเดินทางมาร้านแรกในช่วงหาเสียง
นายชัชชาติกล่าวว่า “สวยนะ มาแล้วก็หอมชื่นใจ สดชื่น” ก่อนถามหาเจ้าของร้าน แต่ไม่พบ
ผู้ว่าฯกทม.ย้ำว่า ต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าให้เลอะเทอะ ต้องช่วยกันดู อย่าให้ขวางทางเดิน นโยบายยังเหมือนเดิม ถ้าจัดให้ดีสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวดีๆ ได้ ร้านสวยๆ เยอะ ไม่แพ้ซีแอตเทิล
จากนั้น วิ่งบนทางเท้าเลียบตึกแถวขนานคลองคูเมือง โดยนายชัชชาติระบุว่า ทางเดินเท้าบางช่วงไม่ค่อยดี
ต่อมา วิ่งถึงย่านบ้านหม้อ ก่อนมุ่งหน้าสะพานมอญ ถนนอัษฎางค์ คลองหลอดวัดราชบพิธ สุสานหลวง กระทรวงมหาดไทย วัดราชประดิษฐ์ฯ ตามลำดับ
นายชัชชาตินำชม ‘อนุสาวรีย์หมู’ สร้างในปี 2456 ซึ่งพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา
จากนั้นวิ่งเหยาะข้ามทางม้าลาย แวะตลาดตรอกหม้อ ซอยสุขา แล้วกลับถึงศาลาว่าการ กทม. ซื้อน้ำแดงโซดาแก้วใหญ่ จากร้านค้าริมทาง สอบถามถึงค่าเช่าที่ตั้งแผง และยุติการถ่ายทอดสด โดยนายชัชชาติเตรียมเข้าทำงานที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้าต่อไป
