รู้จักน้อง มะกอ งูกำพร้า สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน (ชมคลิป-ภาพชุด)

รู้จักน้อง มะกอ “งูกำพร้า” สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน

คนไทย รักและเมตตาสัตว์
เรามีทาสหมา ทาสแมว มากกว่าครึ่งประเทศ หรือไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน
เรามี ลูกหมี ลูกฮิปโป ลูกช้าง ลูกเสือตัวน้อย หน้าตาจิ้มลิ้ม เป็นขวัญใจชาวไทยทั่วประเทศ
บรรดาสัตว์ป่า และลูกสัตว์ ในกรงเลี้ยง ตามสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ที่ปรากฏตัวในเว็บเพจ และเฟชบุ๊กต่างๆ

เป็นกุศโลบายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ต้องการนำเสนอ ความน่าสงสารของการมีชีวิตไม่ถูกที่ถูกทาง คือ แทนที่จะได้มีชีวิตอยู่กับพ่อแม่ในป่า ใช้สัญชาตญาณป่าเต็มรูปแบบ กลับต้องมาอยู่ในกรงขัง เดินไปเดินมาในพื้นที่แคบๆ ชั่วชีวิต

วันนี้ มติชน ออนไลน์ จะพาไปชมและรู้จักกับความน่ารัก น่าสงสาร แต่ในขณะที่อีกหลายๆ คนอาจจะเห็นเป็นความสยดสยองของสัตว์ที่ต้องมาอยู่ในกรงเลี้ยงอีกตัวหนึ่ง ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวขานในโลกออนไลน์เวลานี้

“น้องมะกอ” งูหลาม เยาวรุ่นวัย 6 ขวบ น้ำหนักราว 150 กิโลกรัม

Advertisement

“แต่ความยาว ผมไม่เคยคลี่ออกดูจริง ไม่รู้ว่ายาวเท่าไหร่กันแน่ คาดคร่าวๆ จากสายตา น่าจะอยู่ที่ 3-5 เมตรเศษๆ” ภาคภูมิ อร่ามศิริรุจิเวทย์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน กล่าว

หัวหน้าภาคภูมิเล่าถึงชีวิต ที่มาที่ไปของน้องมะกอ ว่าเดิมทีมะกอเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านของชายคนหนึ่ง
ถึงตอนนี้มีคำถามตามมาทันที

“ใครเขาเลี้ยงงูหลามกัน งูหลามเลี้ยงได้ด้วยหรือ”

Advertisement

หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนบอกว่า งูหลามเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถเพาะเลี้ยงได้

เจ้าของเดิมบอกว่า เมื่อราว 6 ปีก่อน ตอนนั้น “มะกอ” ยังเป็นลูกงูตัวเล็กๆ เลื้อยหลงเข้ามาในบ้าน เขารักและเอ็นดูสัตว์อยู่แล้วจึงตัดสินใจที่จะดูแลเจ้างูน้อยตัวนั้นเอาไว้ โดยตั้งชื่อว่า เจ้ามะกอ ที่มาจากคำว่า มะละกอ ต่อมาเขาได้ไปทำหนังสือขออนุญาตเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตามชนิดของสัตว์ที่อนุญาตให้เพาะเลี้ยงได้

โดยเลี้ยงเจ้ามะกอไว้ในบ้าน ให้มันเลื้อยอย่างอิสระ อยู่รวมกับสุนัขในบ้านอย่างสงบสุข ไม่มีใครระรานใคร
กระทั่งเจ้าของน้องมะกอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ไม่มีใครเอาใจใส่ดูแลเจ้ามะกออีกเหมือนเช่นเดิม จากเดิมที่เคยเลื้อยอย่างงูเหลือมเสรีชน ต้องถูกอัปเปหิไปอยู่ในกรง และถูกแจ้งไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนให้ช่วยเอาเจ้ามะกอไปดูแลต่อ

มะกอเลยต้องมาอยู่ภายใต้การดูแลของสถานีเพาะเลี้ยงแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมา

หัวหน้าภาคภูมิบอกว่า วันนี้มะกอกลายเป็นงูหลามที่ใหญ่ที่สุดในสถานี

จากงูที่เคยเชื่อง เคยลูบหัว ลูบตัวได้ พอไม่มีใครไปยุ่ง ไปคลุกคลีมาก สัญชาตญาณป่าของมะกอก็เริ่มปรากฏออกมาบ้าง คือปกติของงูหลาม ถ้าเป็นงูในธรรมชาติ ใครไปยั่ว ไปอยู่ใกล้ๆ มันจะพุ่งฉกแยกเขี้ยวใส่ทันที ในส่วนของมะกอนั้นก็มีพุ่งฉกบ้างในตอนหิว หรือต้องการอาหาร

“มะกอกินอาหารเดือนละครั้ง โดยเราจะให้กินไก่ดิบสดๆ ครั้งละ 8 ตัว กินอิ่มแล้ว นิ่งขดไม่ไปไหนเลย แต่ถ้าถึงเวลากิน ไม่ได้กินจะเริ่มเลื้อย ส่ายหัวไปมา ซึ่งกรงที่เป็นที่อยู่ของมะกอจะเป็นกรงที่อยู่ในธรรมชาติ มีไก่ป่าเดินไปเดินมาใกล้ๆ ผมสังเกตเขาก็จ้องมองไก่ที่เดินไปเดินมาตาเขม็ง แบบงูจ้องเขมือบเหยื่อ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้” นายภาคภูมิกล่าว

ตามธรรมชาติแล้วงูหลามจะมีอายุขัยประมาณ 20-30 ปี หมายความว่า ถ้าหากมะกอมีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยใดๆ เขายังต้องมีชีวิตในกรงเลี้ยงไปอีกนับสิบปีนับจากนี้

ซึ่งนอกจากมะกอแล้ว ทางสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนยังดูแลสัตว์อื่นๆ อีก คือ งูเหลือม 808 ตัว งูหลาม 5 ตัว เหี้ย และตะกวด 357 ตัว และสัตว์อื่นๆ รวมแล้ว 1,595 ตัว

นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ความน่ารักเป็นแค่ภาพเบิกทางเพื่อให้คนสนใจเข้าไปดู ไปเรียนรู้ความน่าสงสารของสัตว์ป่าเหล่านั้นเท่านั้น โดยเวลานี้ดูเหมือนว่าความเข้าใจต่อสถานภาพของสัตว์ป่าในกรงเลี้ยง ซึ่งมีที่มาที่ไปจากการกระทำผิดกฎหมายสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลักลอบเลี้ยง ลักลอบขยายพันธุ์ หรือกระทั่งลักลอบขโมยมาจากอกพ่อแม่จากป่ามีมากยิ่งขึ้น จากการพยายามสร้างความเข้าใจของหลายๆ ฝ่าย

“สัตว์ป่า ก็คือสัตว์ที่เหมาะจะอยู่ในป่า ในธรรมชาติของพวกเขา ตามสัญชาตญาณของพวกเขา มันน่าสงสารมากที่ต้องมาอยู่ในกรง ต้องพรากจากที่อยู่ และไม่สามารถกลับคืนไปบ้านพวกเขาตลอดชีวิต ขอเถอะครับ อย่าเอา อย่าพยายามเอา และอย่าสนับสนุนการเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยงเลย ปล่อยให้เขาอยู่บ้านเขาดีกว่า” ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากล่าว

ภาคภูมิ อร่ามศิริรุจิเวทย์

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image