‘ชัชชาติ’ เดินหน้าแจกหมวกกันน็อกเด็กแสนใบ กำชับวินัยจราจร ลดอุบัติเหตุบนถนน
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมระหว่าง กทม.กับสมาคมประกันวินาศภัยไทย และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ว่าเด็กกว่าร้อยละ 70 นั่งรถจักรยานยนต์มาเรียนในโรงเรียน สังเกตได้คราวลงพื้นที่โรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบปลอดกัญชง-กัญชา พบว่า เด็กไม่มีหมวกกันน็อกสวม เพราะไม่สามารถนำหมวกกันน็อกขนาดผู้ใหญ่มาสวมได้ สมาคมประกันวินาศภัยไทยก็พร้อมสนับสนุนตามจำนวนที่ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. สำรวจว่าโรงเรียนทั่วกรุงเทพมหานคร มีนักเรียนที่ควรได้รับหมวกกันน็อกทั้งสิ้น 126,117 ใบ โดยจำแนกเป็น ขนาดเล็ก 53,186 ใบ ขนาดกลาง 36,924 ใบ และขนาดใหญ่ 26,426 ใบ ตลอดจนขนาดสำหรับผู้ใหญ่ 9,581 ใบ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็กทุกคน
นายชัชชาติกล่าวว่า จะจัดสรรให้หมวกกันน็อกเป็นสมบัติของโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้งหมด อาจมีตราติดไว้สำหรับหมวกของนักเรียน คนต่อ 1 ภาคเรียน จึงอยากให้มั่นใจว่า เด็กเอาไปแล้วใช้จริง ไม่ยาก เพราะมีครูรับเด็กหน้าโรงเรียนแต่เช้า
นายชัชชาติกล่าวเน้นย้ำถึงการรณรงค์ขับขี่จักรยานยนต์พร้อมเด็ก ว่าจะต้องสวมหมวกกันน็อกตลอดทั้งไปและกลับ ขับขี่เลนซ้าย หยุดรถที่ทางม้าลาย-ไฟจราจร และไม่ขับขี่ย้อนศร ทั้งหมดนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการบริหาร กทม.ที่มุ่งเน้นการรณรงค์ 4 ด้าน คือ ความปลอดภัยบนท้องถนน การทิ้งขยะ สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
“เพราะสุดท้ายเด็กเหล่านี้ก็จะขับขี่มอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯ ดีที่มีเอกชนมาให้ความช่วยเหลือ เพราะถ้าตั้งงบประมาณ ก็จะช้าเป็นปี 1 วันที่ผ่านไป ถ้ามีเด็กเสียชีวิต 1 คน เราก็เสียใจแล้ว จึงอยากขอบคุณแทนเด็กด้วย” นายชัชชาติกล่าว และว่า ตั้งเป้า 1 เดือนแรก จะต้องมีการรายงานความคืบหน้าเบื้องต้น
ด้าน นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ทราบกันว่าผู้เสียชีวิตกว่า 15,000-16,000 คนต่อปีนั้น กว่าร้อยละ 70 เกิดจากรถจักรยานยนต์ และร้อยละ 24 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี
“สมาคมและบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภับจากรถที่รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางจราจร คิดว่าโครงการที่ผู้ว่าฯได้พบปัญหาและกระจายข่าวออกไปนั้น เรายินดีมาเป็นเจ้าภาพออกแบบหมวกให้เหมาะสมกับเด็ก ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง อาจเป็นลายซุปเปอร์ฮีโร่ ซึ่งจะต้องคุยกับเด็กด้วย ดูรูปแบบที่เด็กอยากใส่และมีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) 100%” นายอานนท์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพร้อมดำเนินการผลิตและจัดสรรให้เมื่อไร นายอานนท์กล่าวว่า ด้วยมีหลายโรงงานผลิต จึงคาดว่าใช้เวลาเพียง 1-2 เดือนจะแล้วเสร็จ
