นายกอ๋า ยินดีผู้ว่าฯชัชชาติ จับมือทวงเงินรัฐบาลเหตุเลื่อน-ลดเก็บภาษีที่ดิน สูญหมื่นล้าน

นายกอ๋า ยินดีผู้ว่าฯชัชชาติ จับมือทวงเงินรัฐบาลเหตุเลื่อน-ลดเก็บภาษีที่ดิน สูญรายได้หมื่นล้าน

วันนี้ (28 มิถุนายน 2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้การต้อนรับ นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา หรือนายกอ๋า ในฐานะนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) พร้อมเครือข่าย หารือการขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง ในประเด็นการกระจายอำนาจ การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. … ที่ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า)

นายชัชชาติเปิดเผยภายหลังการหารือว่า ส.ท.ท.ก่อตั้งขึ้นในสมัยที่ นายชำนาญ ยุวบูรณ์ เป็นผู้ว่าฯกทม.คนแรก โดยมีการรวมตัวเทศบาลเมือง และเทศบาลนครทั่วประเทศ ซึ่งเทศบาลแต่ละแห่งมีปัญหาเหมือนกัน โดยเทศบาลนครยะลาเคยมีปัญหาการนำสายสื่อสารลงดิน ซึ่งได้แก้ไขไปแล้ว โดยเทศบาลนครยะลาดำเนินการเอง จึงพิสูจน์ให้เชื่อได้ว่า พลังการกระจายอำนาจนับว่ามีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง และมีผลกับประชาชน

“จะเห็นได้ว่าพอมีการกระจายอำนาจให้ประชาชนผ่านระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ ในการแจ้งเหตุ ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ข้าราชการตอบสนองและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทันที นอกจากนี้ กทม.ยังได้ทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมกันกับเทศบาลนครยะลา โดยเทศบาลนครยะลามีวงซิมโฟนี ซึ่ง กทม.จะเชิญมาเล่นในกิจกรรมดนตรีในสวนด้วย” นายชัชชาติกล่าว

ADVERTISMENT

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ส่วนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้งเทศบาลเมือง และเทศบาลนคร และ กทม.ได้รับผลกระทบจากรัฐบาลที่ประกาศเลื่อนและลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เหลือเพียงร้อยละ 10 ทำให้ท้องถิ่นอื่นมีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะสูญเสียรายได้นับหมื่นล้านบาท จึงมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทยอยคืนงบประมาณในส่วนนี้กลับมาด้วย

ADVERTISMENT

“กทม.จะร่วมเรียกร้องด้วย เพราะ 2 ปีที่ผ่านมางบประมาณหายไปจำนวนมาก นอกจากจะเรียกร้องให้รัฐบาลทยอยคืนงบประมาณแล้ว ในส่วนของ กทม.จะเร่งทำฐานข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างครบถ้วน และเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่…) พ.ศ. …ที่แก้ไขให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มาตรา 25 เพื่อให้ กทม.มีอำนาจออกข้อบัญญัติจัดเก็บรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียม 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.ภาษียาสูบ จัดเก็บอัตรา 10 สตางค์ต่อมวน 2.ภาษีที่พักและโรงแรม ร้อยละ 3 ของค่าเช่า เพราะในจังหวัดอื่นสามารถดำเนินการได้ แต่ กทม.ยังไม่เคยจัดเก็บมาก่อน และ 3.ภาษีน้ำมันจะจัดเก็บเพิ่มจาก 5 สตางค์ต่อลิตร เป็น 10 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานคร” นายชัชชาติกล่าว และว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.การเข้าถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. … นั้น อาจจะมีข้อทำให้การทำงานลำบากขึ้น ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่มี พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ท้องถิ่นกลับมี จึงทำให้เกิดการลักลั่นในระดับหนึ่ง ซึ่งจะต้องไปดูรายละเอียด ก่อนจะส่งไปรัฐสภา เพื่อให้ข้อกังวลหรือข้อสังเกตของท้องถิ่นต่อไป

ด้านนายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีกับนายชัชชาติหลังได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. พร้อมทั้งได้หารือเรื่องการเป็นเมืองมหามิตรระหว่าง กทม.กับเทศบาลนครยะลาในด้านต่างๆ เช่น แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันด้านเศรษฐกิจเมือง การจัดงานดนตรีในสวน

“ซึ่งยะลามีวงซิมโฟนีอยู่ จึงจะมาจัดที่กรุงเทพฯ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้หารือเรื่องการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนายกเทศมนตรีของโลกขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นงานใหญ่และไม่เคยจัดขึ้นมาก่อน ขณะเดียวกันได้หารือกับนายชัชชาติเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่แต่ละท้องถิ่นถูกรัฐบาลตัดรายได้ไปตั้งแต่ปี 2563 ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วประเทศ รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 3.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลควรจะชดเชยให้กับแต่ละท้องถิ่นได้แล้ว” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ นายกเทศบาลนครยะลากล่าวว่า ยังได้หารือเรื่อง พ.ร.บ.การเข้าถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. … ซึ่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะทำให้มีการล่ารายชื่อของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อถอดถอนผู้ชนะการเลือกตั้งการปกครองท้องถิ่น และหมายรวมผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กว่า 5,000 แห่ง เทศบาลนครกว่า 2,000 แห่ง และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อีก 75 แห่ง

“เพื่อสอบสวนว่ากระทำผิดใดหรือไม่ โดยยื่นให้กับคนเดียว คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ เป็นผู้ตัดสินเท่านั้น และเมื่อผลการสอบสวนปรากฏว่าไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาแล้ว ยังสามารถร่วมล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนบุคคลนั้นอีกครั้ง จึงเห็นว่าเท่ากับเป็นการกลั่นแกล้งผู้ชนะเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีกฎหมายในลักษณะนี้ ขณะเดียวกัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวกลับไม่มีผลบังคับใช้ต่อ ส.ส. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน” นายพงษ์ศักดิ์กล่าวย้ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image