อนุทิน เปิดงานมหกรรมสมุนไพรครั้งที่ 19 ชี้ ปลดล็อกกัญชา 1 เดือน ไม่เห็นปัญหาใช้ทางการแพทย์

อนุทิน เปิดงานมหกรรมสมุนไพรครั้งที่ 19 ชี้ ปลดล็อกกัญชา 1 เดือน ไม่เห็นปัญหาใช้ทางการแพทย์ พร้อมมองตลาด ศก.ทะลุ 5 หมื่นล้านบาท

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ฮอลล์ 12 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคม พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้บริหาร สธ. เข้าร่วม

นายอนุทินกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย” ว่า วันนี้เรามาร่วมกันงานทำสมุนไพรแห่งชาติและการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกครั้งที่ 19 ท่ามกลางความท้าทายแห่งศตวรรษที่ 21 นานาชาติต่างยอมรับศักยภาพของไทยเรื่องสาธารณสุขการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก โดยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรต่างๆ มีชื่อเสียงเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ การยกระดับการแข่งขันของผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

อันนำไปสู่การพัฒนาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานในภูมิภาค และมีการเติบโตอย่างยั่งยืนนำไปสู่การก้าวเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสมุนไพรของโลก มีการคาดว่าปี 2565 จะเกิดการสร้างรายได้จากการพัฒนาสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประมาณเกือบ 50,000 ล้านบาท

เกิดการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง สร้างอาชีพ กระจายรายได้และทำให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีสัดส่วนตลาดสูงสุด คือ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดพร้อมดื่ม 2.ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบรรเทาอาการเจ็บป่วย และ 3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยมีแนวโน้มในการเจริญเติบโตสูงยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้การพัฒนาครัวไทยสู่ครัวโลก นำสมุนไพรประกอบอาหารเป็นการสร้างสุขภาพ ก็ทำให้อาหารไทยเป็นที่ยอมรับและรู้จักชื่นชมในระดับโลก ทำให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามากินเที่ยวในประเทศไทย

Advertisement

นายอนุทินกล่าวว่า การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งนี้ ภายใต้แนวคิดเรื่องการใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรภูมิปัญญามาใช้ในการดูแลสุขภาพและสร้างเศรษฐกิจไทย ด้วยกัญชาไทย นวดไทยและอาหารไทย ยืนยันว่าการปลดล็อกัญชากัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์ ประโยชน์ทางการแพทย์ ทำให้มีโอกาสนำภูมิปัญญาจากตำรับยาหมอพื้นบ้าน มาใช้ประโยชน์จริงๆ

ซึ่งตำรับยาที่มีส่วนผสมของกัญชาทางการแพทย์ได้รับการบรรจุเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ นำไปใช้ในคลินิกกัญชากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษามากกว่าแสนราย กัญชาจึงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ สธ.และรัฐบาลยืนยันสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกวิธีและปลอดภัยและเพื่อส่งเสริมสมุนไพร อาหารไทย ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ ความสวยงามและส่งเสริมอุตสาหกรรม เกษตรกร นักลงทุน และประชาชนที่สนใจในธุรกิจ

“การปลดล็อกกัญชา ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นการเริ่มปลดล็อกกัญชาก่อนหน้าวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมุ่งผลประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ ฉะนั้น การมาบอกว่าเราปลดล็อกกัญชาในรัฐบาลชุดนี้ ผู้บริหารชุดนี้ปลดล็อกกัญชา ด้วยความหนุนหันพลันแล่น ฉุกละหุกไม่รอบคอบ จึงไม่เป็นความจริง เพราะมีการเริ่มปลดมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งหาก 3 ปีนี้ไม่มีความคืบหน้านั่นคือ การด้อยประสิทธิภาพ ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความสามารถ และเราได้ยกระดับการปลดล็อกเรื่อยมาหลายครั้ง จนถึงวันนี้ที่เราสามารถยกระดับสูงสุดคือการปลดล็อกให้ออกจากยาเสพติดให้โทษที่ 5 หากใช้ไม่เกิน 0.2% ก็จะมีความปลอดภัย ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป” นายอนุทินกล่าว

Advertisement

นายอนุทินกล่าวว่า หลังการปลดล็อกก็มีระเบียบกระทรวงสาธารณสุข การบังคับใช้กฎหมายในการควบคุม เพื่อให้ใช้ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น สธ.ไม่เคยสนับสนุนการใช้กัญชาในสันทนาการโดยปราศจากการยับยั้งชั่งใจ ไม่สนับสนุนการใช้กัญชาที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่สนับสนุนให้ใช้กัญชาโดยออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทมากกว่าใช้เพื่อรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย รักษาอาการเครียด อาการนอนไม่หลับซึ่งล้วนแล้วเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และประหยัดงบประมาณในการซื้อยาราคาแพง

ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ของสมุนไพรไทยอีกชนิดหนึ่ง และเป็นสมุนไพรที่มีมูลค่าเพิ่มในตัวเองสูง สิ่งดีเหล่านี้คือศัตรูตัวฉกาจของผู้ที่เสียประโยชน์จากการใช้พืชกัญชา วันนี้ทุกคนเดินอยู่ในฮอลล์อิมแพค เมืองทองธานีแห่งนี้ ก็จะได้ความรู้จากการใช้พืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่ใช่เพียงกัญชากัญชง

นายอนุทินกล่าวว่า สมุนไพรไทยเป็นยาที่ขาดการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ แต่จากนี้ สธ.จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น ผู้บริหารกรมการแพทย์แผนไทยจะไม่ใช่กรมโบราณ รัฐมนตรีกับปลัดร่วมกันแต่งตั้งต้องดูแล้วว่ามีความสามารถผลักดันให้คนไทยลืมตาอ้าปากด้วยสิ่งที่เรามีอยู่ในประเทศเรา คนที่จะมาคุมกรมนี้ ได้จะต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล เพิ่มมูลค่าของสมุนไพร

“ตั้งแต่ประกาศปลดล็อกกัญชาอย่างสมบูรณ์ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา 1 เดือนพอดี เรายังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่รู้สึกว่ากัญชาเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดโทษ ยกเว้นผู้ที่ตั้งใจและผู้เสียประโยชน์ที่ไม่ต้องการให้สมุนไพรกัญชา กัญชงเกิดขึ้นในประเทศ ไม่ว่าท่านจะพยายามต่อต้านอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ รพ.สังกัด สธ.ทุกแห่งมีคลินิกกัญชา มีหมอแผนปัจจุบัน หมอแผนไทยและหมอทางเลือกที่ควบคุมกำกับดูแลสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยกว่าล้านคน และผู้ป่วยก็มีความพึงพอใจต่อการรักษาที่ได้รับ นี่เป็นการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานจัดออกเป็น 8 โซน ได้แก่ 1.โซนนวัตกรรม 2.โซนสุขภาพและความงาม 3.โซนกัญชา 4.โซนลานเมือง 5.โคกหนองนาโมเดล 6.โซนเจรจาธุรกิจ 7.โซนภูมิปัญญา และ 8.โซนบริการ ขณะที่ไฮไลต์ภายในงาน 1.มีการอบรมระยะสั้น 2.การรักษาอาการลองโควิด-19 ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และ 3.แจกต้นกล้ากัญชาสายพันธุ์หางกระรอก ฟรีวันละ 100 ต้น ซึ่งประชาชนสามารถลงทะเบียน ณ จุดแจกตั้งแต่เวลา 11.00 น. ซึ่งสามารถรับได้คิวละ 1 ต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ยังมีบูธองค์การเภสัชกรรม (อภ.) การให้ความรู้กัญชาทางการแพทย์ในประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ กัญชงกับศาสตร์ความงามที่คาดไม่ถึง, จุดเริ่มต้น GPO กัญชาทางการแพทย์, THC CBD คืออะไรสำคัญอย่างไรกับการใช้รักษาโรค และลองโควิด-19 เป็นแล้วรักษาได้ พร้อมมีกิจกรรมเล่นเกมชิงรางวัล ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ GPO ที่นำมาจำหน่ายในงานนั้นลดสูงสุดถึง 75 เปอร์เซ็นต์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image