ชัชชาติสารภาพ เกิดมาไม่เคยดูหนังกลางแปลง แย้มข่าวดีผู้ว่าการ รฟท.ไฟเขียวใช้หัวลำโพงฉาย ‘คู่กรรม’ บอก หนังเกาหลี รอนิด
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่บริเวณลานคนเมือง เขตพระนคร กรุงเทพฯ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์ Thai Film Archive สมาคมหนังกลางแปลง และ Better Bangkok จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ ‘กรุงเทพกลางแปลง’ โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการฉายหนังกลางแปลงว่ามีผู้เข้าร่วมงานเดินทางมาที่บริเวณลานคนเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท และนายกุลพงศ์ บุนนาค หรือเบิร์ด นักร้องชื่อดังวง ‘เบิร์ดกะฮาร์ท’ ร้องเพลงและเล่นดนตรีบริเวณหน้าจอฉายหนัง อาทิ เพลง ‘งานวัด’ ของ ‘วงเพื่อน’ เป็นต้น ทำให้บรรยากาศของผู้ร่วมงานเป็นไปอย่างครึกครื้น บรรยากาศภายในงานยังมีบูธขายอาหารอยู่มากมาย อาทิ ข้าวเกรียบว่าว, บ๊ะจ่าง, ไอศกรีมปั่น, ลูกชิ้นปิ้ง, ป๊อปคอร์น และอ้อยควั่น
ต่อมา เมื่อเวลา 16.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาถึงบริเวณลานคนเมือง โดยถามสื่อว่า “วันนี้ผมดูมีความสุขไหม” ก่อนกล่าวว่า สาเหตุเพราะวันนี้สภาผ่านงบประมาณวาระแรกแล้ว ตนซึ่งเป็นผู้ว่าฯมือใหม่ต้องขอบคุณสภา กทม.ที่ผ่านงบเรียบร้อย เป็นบรรยากาศที่ชื่นมื่น และได้ข้อมูลดีๆ เยอะ
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า มีข่าวดี 2 เรื่อง เรื่องแรกคือทางผู้ว่าการรถไฟจะให้ไฟฉายกลางแปลงในหัวลำโพง เรื่อง ‘คู่กรรม’ เพราะเรื่องเกี่ยวโยงถึงรถไฟ ‘โกโบริ’ ถึงแม้ไม่ใช่บางกอกน้อยแต่อยู่ฝั่งนี้ก็ดี
ส่วนเรื่องที่ 2 การนำภาพยนตร์เกาหลีเข้ามาฉาย ซึ่งต้องรอนิดหนึ่ง เราได้ความร่วมมือจากหลายประเทศ น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่าเคยดูหนังกลางแปลงหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ทั้งชีวิตไม่เคยดูหนังกลางแปลง สนุกดี บรรยากาศอบอุ่น
“ผมเห็นร้านค้าแถวนี้ขายดีกันหมดเลย ผมว่านี่กระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นเรื่องหลายมิติ ทั้งศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ ความหวัง ความสนุก ผมว่ากรุงเทพฯขาดบรรยากาศประมาณนี้มานาน และหวังว่าเราจะเป็นผู้ที่เชื่อมความสุขให้พวกเราได้” นายชัชชาติกล่าว
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ความจริงเราจัดเทศกาลทุกเดือน เดือนที่แล้วเป็น pride month เดือนนี้เป็นเรื่องของหนัง ตอนแรกวางไว้เป็น International แต่ว่าพอได้ปรึกษากับทางสมาคมตกลงกันว่าเราเริ่มที่หนังไทยก่อน
“เรามองว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเราก็มีหลายเรื่องเหมือนกันที่เราอยากจะสื่อสาร โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ หรืออุตสาหกรรมหนังกลางแปลงที่เริ่มดับ คนเริ่มไม่นึกถึงแล้ว” นายศานนท์กล่าว
นายชัชชาติถามต่อว่า ที่ลานคนเมืองนี้เกี่ยวอะไรกับเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง นายศานนท์กล่าวว่า เพราะในหนังอยู่ที่พระนคร เช่น แยกวิสุทธิกษัตริย์ จึงใช้ที่นี่
นายศานนท์กล่าวว่า เรามีถึงสิ้นเดือน วันนี้วันแรก พฤหัสบดี ศุกร์และเสาร์ ซึ่งมีวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคมวันเดียวที่ได้หัวลำโพงเพิ่มเข้ามา กิจกรรมจะฉายตอน 1 ทุ่ม แต่รามีหนังสั้นด้วย และมีกิจกรรมเสวนากับผู้กำกับ และเวิร์กช็อปสำหรับผู้ที่อยากเป็นผู้กำกับในอนาคตทางสมาคมก็มีกิจกรรมด้วย
เมื่อถามนายชัชชาติว่ากิจกรรมนี้เป็นการมอบความสุขให้คนกรุงเทพฯหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า คงเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำอะไรได้ก็ทำ ตนว่าเริ่มต้นตั้งแต่ดนตรีในสวนแล้ว ตนว่าจริงๆ แล้วความสุขมีอยู่ทั่วไปในกรุงเทพฯ ถ้าเราช้าลงนิดและดูสิ่งรอบตัวเรา
“เมื่อเช้าผมไปวิ่ง ก็ไปเจอกับสามีมาช่วยภรรยากวาดถนน ผมว่านี่เป็นความสุขแล้ว และได้มาฟังเรื่องดีๆ แบบนี้ เอาจริงๆ แล้วความสุขมีอยู่ทั่วไป เราอาจจะเครียดกับสิ่งต่างๆ เยอะ ผมว่าให้ช้าลงนิด และดูบริบทรอบๆ ตัว ความสุขอาจไม่ต้องมาดูหนังกลางแปลงก็ได้ มันอยู่ที่ใจเรา ถ้าใจเรานิ่งเราก็มีความสุขได้ พอดีชีวิตมันเร็ว มีเรื่องนู้นเรื่องนี้ หนังกลางแปลงอาจจะช่วยให้เราหลุดออกจากชีวิตประจำวันมาพักผ่อนบ้าง เพราะฉะนั้นผมว่าความสุขอยู่ที่ใจ ทุกคนสามารถหาได้ หนังกลางแปลงอาจจะเป็นแค่จุดกระตุ้น แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่ใจเรา” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามถึงงบประมาณ นายศานนท์กล่าวว่า เรื่องงบประมาณในปีนี้เราจำกัดจริงๆ แต่ว่าได้ทางสมาคมและทีมเพื่อนๆ หลายๆ คน เต็นท์ หรือการประสานงานว่าในเรื่องของงบประมาณ มีเรื่องของสปอนเซอร์ที่ทางสมาคมช่วยกันระดม
นายชัชชาติกล่าวเสริมว่า ตนว่าทำให้เห็นถึงพลัง พลังของการร่วมมือร่วมใจ ตนว่าพลังหลายอย่างอยู่นอกรัฐด้วย เอกชนมีพลังเยอะแยะเลยที่จะแบ่งปันความสุขให้กับคนกรุงเทพฯได้ แต่ไม่ได้หวังกำไรอะไร ตนว่าให้ฉายหนัง ได้ให้คนมารวมกัน ตนว่าเป็นกิจกรรมง่ายๆ
“ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจ ร้านค้าสามารถขายได้ ผมว่าเกิดความคึกคักขึ้น แล้วเกิดความสุขจิตใจสบายขึ้น มีกำลังใจ แต่ก็ไม่ง่ายเพราะเศรษฐกิจในภาพรวมยังไม่ดีขึ้นมาก แต่อย่างน้อยถ้าเรามีมุมมองบวกขึ้น ผมว่าหลายๆ อย่างอาจจะค่อยๆ ดีขึ้นได้” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามว่าการใช้หนังกลางแปลงมีการใช้งบประมาณอย่างไรบ้าง นายชัชชาติกล่าวว่า อาจใช้งบประมาณนิดหน่อย จริงๆ แล้วเหมือนดนตรีในสวน แทบไม่ได้ใช้เงินเลย
