‘ชัชชาติ’ ฮึ่ม ผิดกฎหมายสั่งปิด! เข้มสถานประกอบการ สุ่มตรวจให้ถี่-มีทางหนีไฟไหม้

‘ชัชชาติ’ ฮึ่ม ผิดกฎหมายสั่งปิด! เข้มสถานประกอบการ เล็งตรวจเชิงรุกให้ถี่-มีทางหนีไฟไหม้

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 4 สิงหาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม., พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงแนวทางการตรวจสถานประกอบการเพื่อป้องกันเหตุอัคคีภัย

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวว่า หลังจากกรณีเกิดเพลิงไหม้สถานบันเทิง ที่สีลม ซอย 2 ทาง กทม.ได้มีการลงตรวจสอบสถานบันเทิงทุกแห่ง ทั้งทางเข้าทางออก โครงสร้างอาคาร อุปกรณ์สายไฟ แต่ปกติทุกสำนักงานเขตจะมีการตรวจสอบสถานประกอบการ สถานบันเทิง จากการป้องกันโรคโควิด-19 ต้องมีการรายงานมาให้ส่วนกลางอยู่แล้ว ประเด็นต่อมาให้มีการตรวจสอบสถานบริการ-สถานบันเทิงแต่ละแห่ง ว่ามีข้อร้องเรียนจากประชาชนหรือไม่ ซึ่งจะมีการรายงานมาที่ ศบค.กทม.

นอกจากนี้ เขตจะต้องมีแผนตรวจร่วมกับ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ต้องตรวจ โครงสร้างอาคาร ทางเข้าทางออก ความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัย อยากให้มีการตรวจถี่ขึ้น พร้อมทั้งดูว่าสถานประกอบการอยู่ใกล้ชุมชนหรือไม่ ถ้ามีชุมชนต่อเนื่องจะมีความเสี่ยงได้มากขึ้น

“ต้องยอมรับว่าตรวจไปไม่ได้มาก หลายสถานประกอบการยังไม่ได้เปิด แต่ที่เปิดแล้วก็ยังได้มาตรฐาน แต่ยังมีปัญหาเรื่องทางเข้าออก มีสิ่งของไปขวางทาง” ผศ.ดร.ทวิดากล่าว

Advertisement

ด้าน พล.ต.อ.อดิศร์กล่าวว่า มีการประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ส่งบัญชีรายชื่อสถานประกอบการ 250 แห่ง ร่วมกับสถานที่ที่เปิดลักษณะเป็นสวนอาหาร ที่อยู่นอกพื้นที่โซนนิ่ง จะมีการทยอยตรวจเชิงรุกในตอนกลางวัน และบางส่วนจะตรวจในเวลาเปิดจริง เพื่อดูบรรยากาศจริง พร้อมลงพื้นที่

ขณะที่ นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวเสริมว่า ต้องตรวจเชิงรุกให้เข้มข้นขึ้น เพราะมีสถานประกอบการที่ไม่ถูกกฎหมาย ถ้าเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาต ยิ่งอันตรายหนักขึ้น แล้วทาง กทม.คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

Advertisement

“สถานบริการที่ถูกกฎหมาย พอปฏิบัติจริง มีโต๊ะเก้าอี้ไปวางขวางทาง ไม่มีป้ายทางออกที่ชัดเจน ผู้ที่เพิ่งเคยมาเที่ยว จึงไม่สามารถหาทางออกที่ชัดเจนได้ เหมือนที่สีลมซอย 2 ที่มีทางออก 2 ทางจริง แต่ไปอยู่หลังร้าน มีโต๊ะวางขวางอยู่ ต้องมีหน่วยที่ไปตรวจสอบช่วงเวลาจริงแบบไม่เป็นทางการ แต่คงไม่ได้แห่ไป” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวว่า มีความกังวลสถานประกอบการที่เปิดประเภทหนึ่ง แต่ไปทำอีกแบบหนึ่ง เช่น ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม มีคนอยู่หนาแน่น เป็นร้านอาหารเปิดบริการได้นาน แต่พฤติกรรมมีการดัดแปลง อาจจะไม่มีความปลอดภัยที่ครบถ้วน ต้องดูให้ครอบคลุม เป็นโอกาสที่จะได้สะสางปัญหา โดยให้ พล.ต.อ.อดิศร์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบภายใน 1 เดือน พบเจอสถานที่ผิดกฎหมายสั่งหยุดให้บริการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image