อนุทิน ขอบคุณ ผู้ร่วมประชุมเอเปค สธ. ตั้งรับโรคระบาดในอนาคต หวังเป็นสัญญาณดี เรียกความเชื่อมั่นด้านสุขภาพ-เศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และผู้บริหาร สธ. ร่วมประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจครั้งที่ 12 (APEC Hight-level Meeting on heath and the economy 2022)
นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้เป็นประเทศเป็นประธานการประชุมโต๊ะกลมหัวข้อ การลงทุนด้านความมั่นคงด้านสุขภาพของโลกเพื่อเตรียมพร้อมรับมือภาวะโรคระบาดในอนาคต เป็นการหารือของ รมต.สาธารณสุขในเขตเศรษฐกิจเอเปครวม 20 จาก 21 เขตเศรษฐกิจ ร่วมประชุมรวมทั้งสิ้นกว่า 150 คน ซึ่งมากกว่าทุกครั้งที่เคยจัดมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการประชุมเอเปค ภายใต้หัวข้อ เปิดกว้างสร้างความสัมพันธ์ภาคี เชื่อมโยงโลกสู่สมดุลสาธารณสุขและเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งหน้าจะเกิดขึ้นในอีก 20 ปี คือ ค.ศ.2042
นายอนุทินกล่าวว่า จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เห็นว่าโลกยังไม่ได้เตรียมพร้อมในการรับมือ และไม่มีเขตเศรษฐกิจใดที่พร้อมรองรับการระบาดใหญ่ในอนาคต รวมทั้งส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลงทุนเพียงพอที่จะทำให้เกิดความมั่นคงด้านสุขภาพ ความมั่งคั่งในประชาชนและคนรุ่นต่อไป ตามที่กำหนดไว้ในวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 การประชุมครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ชักชวนสมาชิกเขตเศรษฐกิจ ให้มาร่วมลงทุนสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ในอนาคต ผ่านการลงทุนเรื่องระบบสุขภาพ การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมทั้งการเร่งพัฒนาและผลิตวัคซีน
นายอนุทินกล่าวว่า ข้อมติที่สำคัญในการประชุมที่เป็นประโยชน์ต่อเอเปค ต่อโลกและต่อประเทศไทย ตามแนวคิดสร้างความมมดุลด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ 1.สนับสนุนการลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ 2.การเปิดพรมแดน สร้างการเดินทางที่ปลอดภัย โดยไม่กระทบต่อการป้องกันโควิด 3.สนับสนุนให้เขตเศรษฐกิจของเอเปคร่วมมือกับภาคเอกชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 4.มีการแบ่งปันและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด และการจัดหาวัคซีน 5.และอำนวยความสะดวกทางการค้า และ 6.สนับสนุนวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 ที่ให้ส่งเสริมการเติบโตที่มีคุณภาพ อันนำมาซึ่งประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจน การมีสุขภาพที่ดีขึ้น และความเป็นอยู่ที่ดีแก่ทุกคน
“โอกาสนี้ ขอขอบคุณสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค สำนักเลขาธิการเอเปคสำนักเลขาธิการอาเซียน รวมถึงหน่วยงานของไทยและองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้การประชุมและกิจกรรมความร่วมมือทางด้านสาธารณสุขประสบความสำเร็จและผ่านพ้นไปด้วยดี เป็นการสร้างความเชื่อมั่นของคนไทยต่อสมาชิกเอเปคในการดำเนินงานด้านสาธารณสุขและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นนำประเทศไทยไปสู่การประชุมเอเปคซัมมิต (APEC Summit) ในเดือน พ.ย.65 โดยประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพ” นายอนุทินกล่าว