‘จักกพันธุ์’ ชมเทศกิจ แก้ปัญหาใน ‘ทราฟฟี่ฟองดูว์’ รวดเร็ว คนร้องเรียนลดลง เตรียมแผนจัด จนท.37 เขต อำนวย ‘เอเปค 2022’
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม ที่ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ครั้งที่ 8/2565 เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ร่วมประชุม
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักเทศกิจ และสำนักงานเขตที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ฝนตกหนักที่ผ่านมา ทำให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้นได้ ในส่วนของเรื่องการจัดระเบียบหาบเร่ – แผงลอย ได้มีการจัดระเบียบในจุดทำการค้า 95 จุด ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
โดยแบ่งเป็น ระยะที่ 1 ระหว่าง กันยายน – พฤศจิกายน 2565 จำนวน 17 จุด ระยะที่ 2 ระหว่าง ธันวาคม 2565 – กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 28 จุด และระยะที่ 3 ระหว่างมีนาคม – พฤษภาคม 2566 จำนวน 50 จุด ซึ่งความคืบหน้าการดำเนินการระยะที่ 1 เขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการออกแบบรูปแบบตัวอย่างแผงค้า และขอสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ประกอบแผงค้า โดยจะนำเสนอผู้บริหารเห็นชอบและอนุมัติเพื่อดำเนินการต่อไป
นายจักกพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับ การรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ ทราฟฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) ของสำนักเทศกิจ ได้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2565 จนถึงปัจจุบัน (7 ต.ค.) สรุปผลการรับเรื่องร้องเรียน 30 เรื่อง ดำเนินการแล้ว 27 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 เรื่อง โดยเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการไม่มีเรื่องใดคงค้างเกิน 1 เดือน ซึ่งรองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดการร้องเรียนซ้ำ โดยเมื่อดำเนินการเรื่องที่ร้องเรียนเสร็จสิ้นแล้ว ให้ถ่ายรูปแล้วรายงานเข้าไปในระบบให้ประชาชนทราบถึงการแก้ไขปัญหาทันที เช่น การดำเนินการเรื่องป้ายโฆษณา
“นอกจากนี้ ในขณะนี้การร้องเรียนผ่านระบบในเรื่องของฝ่ายเทศกิจ มีจำนวนน้อยลงจากเดิม แสดงว่าสามารถแก้ปัญหาได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การดำเนินคดีต่างๆ ลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะเป็นผลดีกับประชาชนที่ได้รับการแก้ไขปัญหาจากเจ้าหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว” นายจักกพันธุ์ระบุ
นายจักกพันธุ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของการสำรวจการขึ้นทะเบียนผู้ค้าหาบเร่ – แผงลอยนอกพื้นที่ทำการค้า ได้มอบหมายสำนักเทศกิจ ร่วมกับฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต ตรวจสอบผู้ค้า หาบเร่-แผงลอยนอกพื้นที่ทำการค้า ตามแบบฟอร์มที่สำนักเทศกิจกำหนด และตามแบบสำรวจผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยในพื้นที่ทำการค้าที่ได้รับอนุญาตแล้ว (แบบ 3) โดยให้กรอกรายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อมูลทั่วไป ชื่อนามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด อายุ เพศประเภทสินค้าที่จำหน่าย เวลาที่จำหน่ายสินค้า เลขที่แผงค้า ขนาดแผงค้า ข้อมูลรายละเอียดของผู้ค้า เช่น ผู้ค้าเดิม หรือผู้ค้าใหม่ พร้อมตรวจสอบแล้วถูกต้อง คุณสมบัติผู้ค้าว่าถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนพิการ หรือคนในครอบครัวกู้ยืมเงิน กยศ. หรือเช่าซื้อบ้านกับการเคหะฯ หรือ รายได้ไม่เกิน 360,000 บาทต่อปี หรือถูกให้ออกจากงาน เพื่อใช้ประกอบกับข้อมูลแบบสำรวจผู้ค้าหาบเร่แผงลอยนอกพื้นที่ทำการค้า (แบบ 2 ) ที่สำนักงานเขตดำเนินการสำรวจและรายงานให้สำนักเทศกิจทราบแล้ว และพื้นที่ทำการค้านอกจุดที่สำนักเขตยังไม่ได้รายงานให้สำนักเทศกิจทราบ
โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และเตรียมติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่ทำการค้าและพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ ได้ให้สำนักงานเขตสำรวจวันหยุดทำการค้าที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และจัดทำแผนการทำความสะอาดพื้นที่ทำการค้า เพื่อรายงานสำนักเทศกิจ ภายในวันที่ 31 ตุลาคมต่อไป
นายจักกพันธุ์กล่าวอีกว่า สำหรับ การดำเนินคดีการกวดขันรถจักรยานยนต์จอด หรือขับขี่บนทางเท้า ระหว่างวันที่ 1- 6 ตุลาคมนี้ สำนักงานเขตจับกุม 100 ราย ประกอบด้วย ประชาชน 86 ราย วินจักรยานยนต์ 6 ราย พนักงานส่งสินค้า – อาหาร 8 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 3 ราย ดำเนินคดี 97 ราย ปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 108,000 บาท ซึ่งยอดรวมจากวันที่ 9 กรกฎาคม 2561– 6 ตุลาคม 2565 สำนักงานเขต จับกุม 43,679 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 4,190 ราย ดำเนินคดี 39,489 ราย ปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 47,732,500 บาท ในส่วนของการดำเนินการตั้งจุด จับ – ปรับ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้าของสำนักเทศกิจ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-6 ตุลาคม 2565 จับกุมรวม 77 ราย เปรียบเทียบปรับ 43 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 90,000 บาท ส่งให้สำนักงานเขตดำเนินการ 34 ราย และผลการดำเนินคดีกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างวันที่ 1– 6 ตุลาคม 2565 สำนักงานเขต จัดเก็บ 232 ป้าย จับ-ปรับ 4 ราย ปรับเป็นเงิน 15,000 บาท ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี รวมผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 – 6 ตุลาคม 2565 สำนักงานเขต จัดเก็บ 242,085 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 51 ราย จับ-ปรับ 5,912 ราย ปรับเป็นเงิน 16,207,500 บาท
นายจักกพันธุ์เปิดเผยอีกว่า ในที่ประชุมมีการรายงาน “แผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจรการจัดประชุมเอเปค 2022” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจรการจัดประชุมเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายนนี้ และการจัดประชุมระดับผู้นำ ระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายนนี้ โดย สำนักเทศกิจจะดำเนินการจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ 37 เขต ประจำกองอำนวยการร่วม เพื่อติดต่อและประสานการปฏิบัติระหว่างกรุงเทพมหานครกับกองอำนวยการร่วม พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ติดตั้งระบบสื่อสาร ระบบอินเตอร์เน็ต การเชื่อมต่อระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) เพื่ออำนวยการ สั่งการ กำกับ ดูแล และประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง การจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่ทำการโซน (ทก.โซน) ซึ่งมีการกำหนดขอบเขตและความรับผิดชอบ ในพื้นที่หวงห้าม พื้นที่ควบคุม โดยให้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย และระวังป้องกันอัคคีภัยสถานที่ประชุม สถานที่จัดเลี้ยง และโรงแรมที่พำนักของบุคคลสำคัญ และคู่สมรส ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสูงสุด และเพื่อให้การปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ แบ่งพื้นที่ปฏิบัติการ (ทก.โซน) ออกเป็น 18 พื้นที่ปฏิบัติการ ดูแลพื้นที่ 17 โรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมอีกด้วย
ขณะเดียวกัน น.ส.ศนิ นิวจินดา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการปรับปรุงสถานะเคส ทราฟฟี่ฟองดูว์ โดยพนักงานกวาด 50 เขต ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นการปูพื้นฐานให้เจ้าหน้าที่ได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุ การปรับปรุงสถานะและปิดเคสเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้เป็นช่วงสถานการณ์น้ำและในอนาคตอาจจะเป็นสถานการณ์ฝุ่นและสถานการณ์อื่นๆ ต่อไป