น้ำต้มข้าวได้ผล ป้อนคู่กับยา น้องธันวามีแรงมากขึ้น
กรณี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก อยู่ระหว่างการดูแลรักษาช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลง มีอาการป่วยและบาดเจ็บ ชื่อธันวา เพศเมีย
ล่าสุด วันที่ 19 ธันวาคม นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชรนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ได้รายงานผลสุขภาพของน้องธันวา ดังต่อไปนี้
1. ยังไม่ถ่ายอุจจาระ แต่ท้องไม่อืด มีการผายลมเป็นระยะ กระตุ้นถ่ายพบว่าออกมาเล็กน้อย มีลักษณะเป็นเนื้อครีมที่แข็งขึ้น (รอขับถ่ายเองวันนี้ 19 ธ.ค.65 แล้วสังเกตอุจจาระเพิ่มเติม) ปัสสาวะปกติ
2. เน้นการป้อนน้ำและเกลือแร่ให้ถี่ขึ้น ไม่สามารถให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือดดำบริเวณใบหูได้ เนื่องจากได้ทำการให้สารน้ำทุกวันผ่านทางหลอดเลือดดำบริเวณใบหู ส่งผลให้เส้นเลือดเสียหาย ต้องรอการหายดีของเส้นเลือด ประมาณ 3-5 วัน
3. อาหารให้กินน้ำต้มข้าว เนื้อข้าวต้มเปื่อย ทุก 3 ชั่วโมง (น้ำข้าวต้ม 500 มิลลิลิตร และเนื้อข้าวต้ม 16 ช้อน ต่อ 1 มื้อ)
4. ทำการให้ยาฆ่าเชื้อแบบกิน
5. ทำการให้วิตามินแบบกิน ให้กินน้ำผึ้ง
6. ทำการให้ยาลดกรด เอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร และยาขับลมแบบกิน
7. ยังคงต้องใช้การพยุงตัวช่วยในการลุก นั่ง ยืน เดิน
8. มีเรี่ยวแรงและกำลังมากขึ้น เดินได้ไกลขึ้น (มีการพยุงตัวช่วย)
9. ทำการชั่งน้ำหนัก พบว่า ลูกช้างป่าธันวามีน้ำหนัก 87.7 กิโลกรัม
ทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ยังคงต้องดูแลลูกช้างป่า (ธันวา) อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง
