หัวหน้าอุทยาน แฉซ้ำ ไม่ยอมจ่าย ถูกย้ายทันที ท้าเปิดบัญชีกู้สหกรณ์ ซี7ขึ้น กู้แหลก จ่ายส่วยอธิบดี
กรณี กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ป.ป.) บุกจับ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และตั้งข้อกล่าวหา ทุจริตเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด หลังบุกห้องทำงานพบเงินในซองรวมกว่า 5 ล้านบาท นั้น
วันที่ 6 มกราคม แหล่งข่าว เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งเคยอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติมาก่อน เปิดเผยกับมติชนออนไลน์ว่า ยืนยันว่า เรื่องการเรียกเก็บเงินสำหรับการโยกย้ายในกลุ่มหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ นั้นมีจริง 100% โดยมี 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 คือ หากอยากไปอยู่อุทยานเกรดเอ เช่น เขาใหญ่ เอราวัณ อินทนนท์ ฯลฯ หรือ อุทยานทางทะเล ไม่ว่า จะเป็น อุทยานแห่งชาติสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหมูเกาะพีพี อ่าวพังงา เขาสก หาดเจ้าไหม ตะรุเตา ธารโบกขรณี ฯลฯ ล้วนแล้ว แต่ต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น เริ่มต้นด้วยธนบัตรใบละ 1 พันบาท 5 กิโลกรัม หรือ 5 ล้านบาท ส่วนประเภทที่ 2 คือ หากอยู่อุทยานเหล่านี้ หรืออุทยานเกรดเออยู่แล้ว และยังอยากอยู่ต่อไป ก็ต้องจ่ายในราคาเดียวกัน หากใครไม่จ่ายก็จะต้องถูกย้ายทันที ทั้งนี้ ไม่รวมกับที่จะต้องส่งเงินรายเดือนอีกต่างหาก ซึ่งใครไม่จ่ายจะถูกย้ายทันที ดังเช่นที่ผ่านมา มีการย้ายในส่วนของอุทยานทางทะเล และอุทยานเกรดเอ จำนวนมาก
เมื่้อถามว่า ทราบไหมว่า เงินเหล่านี้ ถูกรวบรวมไปให้ใครที่ไหน แหล่งข่าว กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่า รวบรวมไปไว้ที่ไหนนักหนา รู้แต่ว่าเป็นเงินจำนวนมาก และจะมีคนคอยเก็บรวบรวมอยู่ โดยคนๆนี้จะเป็นผู้ประสาน เหมือนนกต่อ คอยติดต่อถามไปยังอุทยานต่างๆว่า อยากจะอยู่ต่อหรือไม่ หัวหน้าอุทยานฯหลายแห่งไม่ยอมจ่าย เพราะไม่คิดว่า ระบบจะแย่ขนาดคิดจะทำแบบนี้ได้ จึงไม่ยอมจ่าย ปรากฏว่าถูกย้ายทันที เป็นเหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู ต่อมา ใครไม่อยากย้ายหากหาเงินมาได้ก็จ่าย หาเงินมาให้ไม่ได้ หรือหาไม่ทันก็ถูกย้ายกันหมด
แหล่งข่าวอีกคน ซึ่งขณะนี้ ถูกย้ายไปอยู่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรมอุทยานแห่งชาติแล้ว ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ ว่า หากไปตรวจสอบกับสหกรณ์ของป่าไม้ เวลานี้ จะพบว่า มีข้าราชการ โดยเฉพาะระดับ 7 และระดับ 8 จะทำเรื่องขอกู้เงินสหกรณ์จำนวนมาก ซึ่งข้าราชการระดับนี้ มีสิทธิ์กู้เงินได้คนละไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งตนทราบมาว่า กว่า 80%ของคนที่มากูเงินในระดับ 6 แสน ขึ้นไปนั้น ล้วนแล้วแต่เอาเงินไปจ่ายเพื่อการวิ่งเต้นโยกย้ายทั้งสิ้น
“อย่างเช่น ที่มีข่าวออกมาว่า จะเลื่อนการสอบสัมภาษณ์ ป่าไม้อาวุโส หรือ ข้าราชการระดับ 8 นั้น ทราบว่า หลายคนแทบจะร้องไห้ หรือไม่ก็ร้องไห้ไปแล้ว เพราะ กู้เงินสหกรณ์มาจ่ายมัดจำไปแล้ว คนละ 6 แสนบาท จะจ่าย 9 แสน หลังจากประกาศผลสอบสัมภาษณ์ และได้ขึ้นเป็นอาวุโส หรือ ระดับ 8 ไปแล้ว หรือหลายราย จ่ายเงินครบแล้ว 1.5-2 ล้านบาท เพราะถึงขณะนี้แล้ว ไม่รู้จะไปเอาเงินคืนที่ไหนกับใคร มันเป็นแบบนี้กันจริงๆกรมอุทยานแห่งชาติ”แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนกรณีล่าสุดมีการร้องเรียนในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่โปร่งใสในช่วงที่นายรัชฎา เข้ามาเป็นอธิบดี โดยมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คนเดียวรับผิดชอบในหลายภารกิจ ตั้งแต่ 3-5 ตำแหน่งในหน่วยงานต่างๆ พร้อมทั้งต้องมีการต่ออายุตำแหน่งในทุกปีนั้น
แหล่งข่าวกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า การแต่งตั้งข้าราชการคนเดียวให้รับผิดชอบในหลายภารกิจ มี 2 เหตุผล เหตุผลแรกและเป็นเหตุผลหลักคือบางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ มีคนไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ เจ้าหน้าที่หนึ่งคนจึงต้องควบหลายตำแหน่ง ส่วนอีกเหตุผลคือเป็นตัวเจ้าหน้าที่เองที่ได้อยากได้งานเยอะๆ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีงบประมาณมาดำเนินโครงการต่างๆ จำนวนมาก เช่น ส่วนประสานงานโครงการพระราชดำริ และกิจการพิเศษ ส่วนต้นน้ำ ส่วนไฟป่า เป็นต้น ซึ่งมีเรื่องเงินเป็นเหตุผลแฝง โดยจะพบหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่หนึ่งคนรับหลายหน้าที่ในหลายหน่วยงาน จึงน่าเป็นห่วงในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญกรณีเหล่านี้มีในทุกยุคไม่ใช่เฉพาะในยุคที่นายรัชฎาเป็นอธิบดีเท่านั้น