‘ชัชชาติ’ ไม่เชื่อละอองน้ำทำฝุ่นหาย ช่วยได้ทางใจ ชี้แจกหน้ากากอนามัย ได้ผลกว่าใช้เครื่องฟอก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้น
นายชัชชาติกล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นในกรุงเทพฯ เริ่มรุนแรงตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งเกิดจากสภาพอากาศที่ปิด ประกอบกับลมต่ำมาก ทำให้ฝุ่นที่หมุนเวียนในกรุงเทพฯ ไม่ได้ระบายออก อีกส่วนเกิดจากรถยนต์และการเผาชีวมวลด้านนอก ซึ่งช่วงเช้ากรมควบคุมมลพิษแจ้งว่าพบมากถึง 1,200 จุด ในพื้นที่ประเทศไทย รวมถึงยังพบในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งจะมาถึงไทยโดยตรง ทำให้หลายจังหวัดมีค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
โดยสิ่งที่ดีขึ้นคือการพยากรณ์ที่เราแม่นยำขึ้น มีการประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้ามาโดยตลอด ทั้งในโรงเรียนและการแจ้งเตือนผ่าน Line Alert ซึ่งปัจจุบันมีผู้ Add แล้วกว่า 100,000 คน อย่างไรก็ตามการปฏิบัติในเบื้องต้นคือการดูแลตนเองอยู่เสมอ โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกพื้นที่กลางแจ้ง
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า แผนฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติที่ กทม.ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง โดยหากค่าฝุ่นละอองสูงเกิน 75 มค.ก./ลบ.ม. ต่อเนื่อง (รวมวันพยากรณ์) 3 วัน ต้องมีมาตรการดำเนินการ ในส่วนกทม.ก็มีคำสั่งให้ทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ในส่วนของเอกชนก็ให้สำนักงานเขตขอความร่วมมือ โดยจะมีการสรุปเป็นรายงานแจ้งอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงกรณีตัดสินใจไม่สั่งปิดโรงเรียน เนื่องจากเห็นว่าการปิดโรงเรียนจะเป็นการสร้างภาระให้ ผู้ปกครอง
อ่านข่าว : ‘ชัชชาติ’ ยกปม PM 2.5 ปัญหาระดับชาติ คาดเสาร์-อาทิตย์นี้ดีขึ้น พยายามเต็มที่ ทำพยากรณ์ให้แม่น
สำหรับการพ่นละอองน้ำตามพื้นที่ต่างๆ นายชัชชาติกล่าวว่า จากที่ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหลายที่ ตามหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้มีหลักฐานว่าจะช่วยลดฝุ่นได้ ละอองน้ำมีขนาดใหญ่เกินไปที่จะไปจับตัวฝุ่น PM 2.5 แต่ในแง่จิตใจอาจจะช่วยได้บ้าง
เมื่อถามว่า กทม.มีการจัดทำหรือจัดซื้อเครื่องกรองอากาศให้ตามโรงเรียน หรือศูนย์เด็กเล็กในสังกัด กทม.หรือไม่
นายชัชชาติกล่าวว่า กำลังดำเนินการโดยตั้งงบประมาณในปี 2567 คิดว่าการแจกหน้ากากได้ผลกว่า ซึ่งใช้งบประมาณน้อยและมีความทั่วถึงกว่า การใช้เครื่องกรองอากาศตามห้อง จำกัดการใช้เฉพาะคน เคลื่อนที่ลำบาก ส่วนเครื่องกรองอากาศ DIY ไม่เพียงพอ เพราะกำลังการผลิตไม่เพียงพอ
