ประกาศราชกิจจานุเบกษา กำหนด ‘ราคากลางยา’ ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้แล้ว

ภาพกราฟิกลิขสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ลงประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางยา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ลงนามโดย พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 )
โดยได้กําหนดให้คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ มีอํานาจหน้าที่ในการกําหนดราคากลางยาในการจัดซื้อของหน่วยงานของรัฐให้ทันสมัย คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กําหนดราคากลางยา พ.ศ. 2559 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ข้อ 2 ให้ใช้ราคากลางของยา ตามบัญชีแนบท้ายประกาศ ข้อ 3 ราคากลางของยาที่ประกาศนี้ เป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ไขปรับปรุงราคากลางยาจากประกาศฉบับเดิม (ฉบับลงวันที่ 4 ตุลาคม 2559) จำนวน 9 รายการ เนื่องจากมีรายงานปัญหาในการจัดซื้อ ดังต่อไปนี้

1.Aminophylline tablet 100 mg

2.Benzylpenicillin (Penicillin G) sterile powder 1 MU

Advertisement

3.Bisacodyl enteric-coated tablet 5 mg

4.Bisacodyl rectal suppository 10 mg

5.Chloramphenicol sodium succinate sterile powder 1 gm

Advertisement

6.Isosorbide dinitrate sublingual tablet 5 mg

7.Nicotinic acid tablet 50 mg

8.ยาเม็ดสูตรผสมชนิดเหน็บช่องคลอดที่มีตัวยา Nystatin 100,000 IU, diiodohydroxyquinoline 100 mg และ benzalkonium 7 mg

9.Vitamin B6 (Pyridoxine hydrochloride) tablet 50 mg

สําหรับรายการยาอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงราคากลางยา ตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการกําหนดราคากลางยาที่คณะกรรมการฯ กําหนด

ส่วนราคากลางยา ท้ายประกาศนั้น มีประมาณกว่า 20 กลุ่ม อาทิ กลุ่มยาสําหรับโรคตับอักเสบซีเรื้อรัง (Chronic Hepatitis C) กลุ่มยา other vasodilators กลุ่มยา antimetabolites กลุ่มยา antifungal drug กลุ่มยา Anticoagulants ชนิดฉีด กลุ่มยา Insulins กลุ่มยา Drugs for treatment of glaucoma กลุ่มยาลดไขมัน เป็นต้น โดยรายละเอียดอ่านได้ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/D/090/48.PDF

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image