เจออีก สร้างรีสอร์ตใกล้ผาหัวสิงห์ รุกอุทยานเขาค้อ อธิบดีสั่งย้ายหัวหน้าทันที

เจออีก สร้างรีสอร์ตใกล้ผาหัวสิงห์ รุกอุทยานเขาค้อ อธิบดีสั่งย้ายหัวหน้าทันที

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจัก(กอ.รมน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช บูรณาการ และสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.18(น้ำชุน), ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบูรณ์(ภูทับเบิก) และฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า นำกำลัง เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านทิศใต้ของผาหัวสิงห์ ในท้องที่บ้านน้ำเพียงดิน หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์

พบว่ามีรีสอร์ตก่อสร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ 2 แห่ง คือ 1.ภูทับเบิกสวนสวรรค์ พื้นที่ถูกบุกรุก เนื้อที่ 1 – 2 – 69 ไร่ สิ่งก่อสร้างจำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย 1. โดม จำนวน 5 หลัง 2. แคร่ไม้ไผ่ เพื่อใช้ในการกางเต็นท์ ขนาด 4×4 เมตร จำนวน 15 แคร่ 3. บ้านพักถาวร ขนาด 5x 4 เมตร จำนวน 4 หลัง 4. แคร่พื้นยิปซั่ม ขนาด 3.6 x 3.6 เมตร พร้อมราวเหล็ก จำนวน 3 แคร่ และ 2.กู๊ดวิว-ฮอตวิว สวนสวรรค์ภูทับเบิก พื้นที่ถูกบุกรุก เนื้อที่ 0 – 2 – 82 ไร่ เป็นพื้นที่บุกรุก เพื่อใช้เป็นลานกางเต็นท์

Advertisement

พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวว่า ตรวจสอบ”ภูทับเบิกสวนสวรรค์ภูทับเบิก” อยู่ริมหน้าผาด้านทิศใต้ห่างจากผาหัวสิงห์ ประมาณ 200 เมตร มีหินก้อนขนาดใหญ่ ด้านบนก้อนหินทำเป็นบันไดขึ้นไปชมวิวได้ 360 องศา ต่อจากก้อนหินใหญ่ตลอดแนวหน้าผาเชื่อมต่อจากผาหัวสิงห์ ความยาวประมาณ 200 เมตร มีการก่อสร้างอาคารที่พักรุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ประกอบด้วยอาคารถาวรทำด้วยคอนกรีต หลังคามุงด้วยเมทัลชีท ด้านหน้าผาทำเป็นกระจก จำนวน 4 หลัง และมีฐานกางเต้นท์โดม ริมหน้าผารวม 15 โดม และอยู่บนก้อนหินอีก 2 โดม ปลายหน้าผาทำบันไดขึ้นไปบนเนินเขาที่ชัน และอันตรายมาก เพื่อทำเป็นจุดเช็คอิน”สวนสวรรค์”ซึ่งจุดนี้สามารถชมวิวผาหัวสิงห์ และ มองเห็นวัดผาซ่อนแก้ว อ.เขาค้อ ได้อย่างชัดเจน

Advertisement

พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวว่า ส่วน การ ตรวจสอบ“กู๊ดวิว ฮอตวิว ภูทับเบิก” อยู่ริมหน้าผาด้านทิศใต้ห่างจากผาหัวสิงห์ ประมาณ 100 เมตร มีการปรับพื้นที่ทำเป็นลานกางเต้นท์ยาวประมาณ 100 เมตร มีเพียงรั้วไม้ชั่วคราวกั้นกันตกริมหน้าผาเท่านั้น มีการก่อสร้างเสาไฟฟ้าโซล่าเซลเป็นแถวตามแนวหน้าผา จำนวน 5 ต้น โดยนักท่องเที่ยวติดต่อจองที่พักกางเต้นท์ ผ่านทางเพจของรีสอร์ต โดยคิดค่าบริการเต้นท์ละ 150 บาท/คืน ซึ่งรีสอร์ทรายนี้ใช้ประโยชน์ออกนอกเขตที่ได้รับอนุญาต บุกรุกเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุก คำนวณเนื้อที่ได้ 0 – 2 – 82 ไร่ จึงตรวจยึดดำเนินคดีพร้อมสิ่งปลูกสร้างเสาไฟจำนวน 6 ต้น

คณะเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกตรวจยึดพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า โดยมอบให้ นายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เป็นผู้กล่าวโทษ ดำเนินคดี พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54 “ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” และม.55 “ฐานผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(1) “ฐานยึดถือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม” และมาตรา 19(6) “ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆเพื่อหาผลประโยชน์”

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เบื้องต้นตั้งคำถามเลยหัวหน้าอุทยานอยู่อย่างไร ปล่อยให้มีการบุกรุกเข้ามาสร้างรีสอร์ตภายในอุทยานได้อย่างไร จะสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานออกจากพื้นที่ไว้ก่อนและตั้งคณะกรรมการสอบ และจะเข้าไปดูตัวกฏหมายที่จะมาดำเนินการเรื่องนี้ชัดเจนอีกที การบุกรุกเข้ามาก่อสร้างภายในเขตอุทยานแห่งชาติให้อำนาจหัวหน้าอุทยานออกคำสั่งเจ้าของให้สั่งรื้อได้เลย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image