ชัชชาติ เคารพการตัดสิน หลังศาลปกครองสูงสุด ‘ปัดตกข้อชี้แจงเพิ่มเติม’ ปม กทม.ไม่จ่ายเงินให้บีทีเอส-รองผู้ว่าฯ เผย รอหารือฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ชั้น 2 สำนักนักงานเขตภาษีเจริญ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดมีกำหนดพิจารณาคดีครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 ระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นผู้ฟ้อง กับ กทม. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที (ผู้ถูกฟ้องคดี 2) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
โดยคดีนี้บีทีเอสฟ้องว่า กทม.และเคที ผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตามสัญญากรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือทวงถามให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
นายวิศณุกล่าวว่า กทม.ได้แถลงต่อศาลปกครองสูงสุดในประเด็นเพิ่มเติม 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องสัญญาส่วนต่อขยายที่ 1 ที่มีการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และมีการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดียว 2.ในการดำเนินการส่วนต่อขยายที่ 2 ยังไม่ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งไม่เป็นไปตามวิธีการของการใช้งบประมาณ เพราะไม่ผ่านการพิจารณาจากสภา กทม. เนื่องจากสภา กทม.ถือเป็นฝ่ายตรวจสอบ
“ทั้งนี้ 2 ประเด็นดังกล่าวที่ กทม.ชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลปกครองสูงสุด ตุลาการชี้แจงว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง ไม่อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น จึงปัดตกไป และไม่นำมาประกอบการพิจารณาในครั้งนี้” นายวิศณุกล่าว
เมื่อถามว่า กทม.จะดำเนินการอย่างไรต่อจากนี้ นายวิศณุกล่าวว่า ยังไม่มีแนวทาง ต้องรอหารือกับฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้การกับศาลปกครองครั้งแรกไม่ได้อยู่ในสมัยที่ตนเป็นผู้ว่าฯกทม. ซึ่งในครั้งนี้ก็ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้ง 2 ประเด็นไปเพิ่มเติม ซึ่งศาลระบุว่า ไม่รับมาพิจารณา ตนเคารพการตัดสินของศาลปกครอง
“เราแค่หวังว่าท่านจะรับฟังข้อมูลเพิ่ม กรณีนี้เป็นเงินจำนวนมาก และเป็นเงินของประชาชนด้วย ซึ่งเราต้องทำตามระเบียบต่างๆ ที่กำหนด โดยให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย เราเห็นว่ามีการเดินรถจริง ไม่มีปัญหา แต่เรื่องขั้นตอนต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบแถลงปฏิบัติ เราก็เลยเพิ่มไป” นายชัชชาติกล่าว
