อย.ขอ ปชช.เช็กยาความดันของตัวเอง ถ้าเป็นล็อตที่เรียกคืน ต้องไปพบแพทย์เปลี่ยนยา ยันการเรียกคืนยาเป็นไปตามระบบเฝ้าระวัง
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า โดยปกติ อย.มีระบบการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ยาและอาหาร อย่างในกรณีที่พบว่ามีการประกาศเตือนผลิตภัณฑ์ยาและอาหารในต่างประเทศ อย.ก็จะต้องมาตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกใบอนุญาตไปในประเทศไทยว่ามีสินค้าตามที่ประกาศเตือนหรือไม่ หากมีเราก็จะประกาศแจ้งเตือนให้กับประชาชนรับทราบเพื่อเรียกคืนสินค้า แต่ถ้าไม่มีเราก็จะประกาศว่าตรวจไม่พบในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาก็มีการตรวจสอบสินค้าอยู่ต่อเนื่อง
“สำหรับยาความดันโลหิตสูงที่ได้ประกาศเตือนไปเมื่อวานนี้ ก็เกิดจากกรณีที่ต่างประเทศมีการเรียกคืนยารักษาโรคความดันโลหิตสูงเออบีซาแทน (Irbesartan) จากบริษัทผู้ผลิต เนื่องจากพบการปนเปื้อนสาร AZBT ที่อาจก่อมะเร็งในวัตถุดิบที่ใช้ผลิตยา เมื่อเรารับทราบข้อมูลเราก็ประกาศเตือนในประเทศไทย” นพ.ณรงค์กล่าว
เมื่อถามว่าพอจะบอกชื่อโรงพยาบาลที่มีการใช้ยาดังกล่าวได้หรือไม่ นพ.ณรงค์กล่าวว่า ในการซื้อขายยาทางผู้ผลิตจะมีการบันทึกข้อมูลของผู้ซื้อหรือสถานพยาบาลอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบก็จะทราบว่ายาดังกล่าวไปอยู่ที่ไหนบ้าง หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลก็จะต้องติดต่อไปยังผู้ป่วยรายนั้นๆ ที่ได้รับยาเพื่อเรียกมาเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่นแทน
เมื่อถามย้ำว่ามีข้อมูลในต่างประเทศหรือว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาดังกล่าวไปจะเกิดอันตรายอย่างไร นพ.ณรงค์กล่าวว่า ที่ต่างประเทศมีการประกาศเตือนออกมาแต่ยังไม่ได้มีข้อมูลชี้ชัดว่า มีโอกาสเกิดมะเร็งได้มากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อ อย.รับทราบข้อมูลมา ก็ต้องรีบประกาศเตือนและเรียกคืนยาล็อตนั้นๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ป่วยไปซื้อมากินเอง นพ.ณรงค์กล่าวว่า ผู้ป่วยก็ต้องตรวจสอบว่ายาที่ตนเองมีในตอนนี้เป็น 1 ใน 42 ล็อตการผลิตที่ อย.ประกาศเตือนภัยหรือไม่ จึงแนะนำว่าให้มาพบเภสัชกรในสถานพยาบาล ดีกว่าการไปหาซื้อยากินเอง เพราะผู้ป่วยบางคนรู้ข่าวดังกล่าว อาจจะหยุดกินยาทันที ซึ่งอาจจะส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น หรือไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้นก็ต้องมาพบแพทย์เพื่อเปลี่ยนยา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมอชี้ ความดันโลหิตสูง เป็น ฆาตกรเงียบ คนไทย 14 ล้านคนป่วย 7 ล้านคน ไม่รู้ตัวว่าเป็น
ตะลึงยาความดันก่อมะเร็ง 8 พันกล่อง กระจาย 19 รพ.เร่งหาตัวคนไข้ที่รับไปแล้ว