ชัชชาติ ห่วงสายไหม ‘ไร้ รพ.’ เล็งสร้างรองรับคน 4 แสน – หาจุดจอดแนว BTS แก้รถติดหนึบ

ชัชชาติ สัญจรเขตสายไหม เล็งสร้างโรงพยาบาลเพิ่ม บนที่ดิน 20 ไร่ รองรับประชากร 4 แสนคนใน 2 เขต

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม ที่สำนักงานเขตสายไหม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย น.ส.รัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม, นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตสายไหม และคณะ ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตสายไหม” เพื่อประชุมเรื่องการบริหารจัดการ ปัญหาการปฏิบัติงานของสำนักงานเขต รับฟังปัญหาและอุปสรรคการปฏิบัติงาน ความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม.

นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เขตสายไหมเป็นเขตสำคัญที่มีประชากรเป็นอันดับ 2 ของกรุงเทพฯ รองจากเขตคลองสามวา โดยมีพื้นที่ 44.615 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 209,556 คน จะเห็นว่ามีประชาชนย้ายมาอยู่ในพื้นที่นี้จำนวนมาก ปัญหาหลักของเขตนี้ คือสิ่งที่เตรียมไว้ไม่สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เข้ามาอยู่ เช่น เรื่องถนนหนทาง การที่มีหมู่บ้านอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ต้องเร่งดำเนินการในการหามาตรการ รวมทั้งขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ ก็มีน้อย จึงได้ให้ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ไปดูเรื่องการแก้ไขปัญหาจุดฝืดต่างๆ

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวว่า รวมถึงนโยบายของรัฐบาลที่ได้แจ้งมาว่าให้มองเรื่อง Park and Ride (จุดจอดแล้วจร) ให้เยอะขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถจอดรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้าได้ในราคาถูก แล้วโดยสารรถไฟฟ้าไป-กลับได้สะดวก รวมทั้งอาจจะใช้จักรยานเป็นตัวเชื่อม เช่น เพิ่มที่จอดจักรยานบริเวณสถานีรถไฟฟ้า ตอนนี้มีการทดสอบถนนเทพรักษ์ให้เป็นถนนที่มีทางจักรยานบนทางเท้า ลดปริมาณรถที่จะเข้าสู่ถนนใหญ่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักที่ทางรัฐบาลแจ้งมาว่าต้องคิดให้ละเอียดขึ้นเพื่อลดปริมาณรถยนต์ที่จะเข้าสู่กรุงเทพฯ เพราะเรื่องการจราจรเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ

ส่วนเรื่องน้ำท่วม เขตสายไหมมีจุดเสี่ยงน้ำท่วม 14 แห่ง ซึ่งปีที่แล้วเราแก้เสร็จแล้ว 2 แห่ง และปีนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าทั้ง 14 แห่ง จะดีขึ้น แต่ยังมีจุดหลักที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมเพราะเป็นจุดที่มีพื้นที่ต่ำ เช่น บริเวณถนนวัชรพล และถนนสายไหม ซึ่งจะต้องมีการปรับถนนต่อไป แต่ภาพรวมสถานการณ์ก็ค่อนข้างดีขึ้น

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวว่า อีกเรื่องที่ต่อเนื่องจากการที่มีประชากรเพิ่มขึ้น คือเรื่องระบบสาธารณสุข เราไม่มีโรงพยาบาลสังกัด กทม.อยู่ในพื้นที่เขตสายไหม คนในพื้นที่จึงต้องไปใช้โรงพยาบาลภูมิพลฯ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่เขตจะมีศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) 2 แห่ง โดยมี ศบส.61 เป็นศูนย์ฯ หลัก และศูนย์ฯ ย่อยอยู่แถวออเงิน ซึ่งเรามีโครงการพัฒนาศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 2 แห่งให้ดีขึ้น โดยอาจจะทำศูนย์ฯ ย่อยให้เป็นศูนย์หลัก แล้วพัฒนาศูนย์ฯ หลักให้ใหญ่ขึ้น

“ขณะเดียวกัน เรามีพื้นที่อยู่ 20 ไร่ ที่มีประชาชนบริจาคให้ ก็จะพิจารณาว่าจะสร้างโรงพยาบาลเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะบริเวณนี้มีประชากรมากกว่า 200,000 คน รวมกับคลองสามวาซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ก็มีประชากรกว่า 200,000 คนเหมือนกัน ซึ่งจำนวนประชากรเทียบเท่าจังหวัดจังหวัดหนึ่ง หากเราสามารถเพิ่มระบบสาธารณสุขให้กับประชาชนได้ ก็น่าจะทำให้ประชาชนมีความอุ่นใจมากขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า อีกปัญหาหนึ่งที่พบมากคือเรื่องขยะ จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในช่วงแรกการเก็บขยะทำได้ไม่ดี จากเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ว่าทุกจุดในเขตต้องเก็บได้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วงประมาณ 2 เดือนที่แล้ว น่าจะเก็บได้แค่ 20% แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บขยะ ซึ่งทำให้การจัดเก็บขยะ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มมาเป็นกว่า 90% เกือบ 100% ของพื้นที่ ถือว่า ผอ.เขตมีการทำงานที่เข้มแข็ง โดยประสานงานและนำทรัพยากรต่างๆ มาลงเพิ่มเติม เพื่อทำให้การจัดเก็บขยะในพื้นที่ดีขึ้นได้

จากนั้น นายชัชชาติ ได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับบุคลากรของเขตสายไหม จำนวน 5 คน ได้แก่ นางสุนันท์ ทวีประยูร ลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานทั่วไป (กวาด) บ2 ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ นางสาวนิภาพร ปิยะทัศน์ ลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่ง พนักงานทั่วไป (กวาด) ฝ่ายรักษาฯ นางน้ำอ้อย วังหิน ลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานสวนสาธารณะ บ2 ฝ่ายรักษาฯ นายอนันต์ บุญถนอม ลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่ง พนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) ฝ่ายรักษาฯ และนายพิศาล มิสา ลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานทั่วไป (ระบายน้ำ) บ2 ฝ่ายโยธา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image