ชัชชาติ ลั่น ‘ดินแน่นเลย’ เตรียมเข้ม ‘รถบรรทุก’ หลังถนนยุบ ไซต์ก่อสร้างต้องรับผิด ถ้าแบกเกินน้ำหนัก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่ปากซอยสุขุมวิท 64/1 ที่เกิดเหตุฝาท่อปิดถนนทรุดจนรถสิบล้อตกลงไป เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ พร้อมระบุว่า บ่อดังกล่าวเป็นบ่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเป็นเพราะสาเหตุใดถึงยุบตัว โดยอาจเกิดจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน ได้ติดต่อประสานทางหลวง มาตรวจวัดว่ารถบรรทุกดังกล่าวน้ำหนักเกินหรือไม่ รวมทั้งปัญหาของการปิดเปิดฝาที่เปิดไว้เพื่อดำเนินการร้อยสายไฟลงดิน อาจมีปัญหาเรื่องความแข็งแรง
ในตอนหนึ่ง นายชัชชาติสอบถาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. ว่ารถบรรทุกมีขนาดกี่ตัน โดยรองผู้ว่าฯชี้ว่ารถบรรทุก ขนาด 10 ล้อ ตามปกติสามารถจุได้สูงสุด 25 ตัน แต่กรณีนี้คาดว่ามีความจุประมาณ 30 ตัน
ทั้งนี้ นายชัชชาติตั้งข้อสังเกตด้วยว่า รถบรรทุกคันนี้ มีลักษณะคล้ายกับกรณีเหตุที่แยกมักกะสัน เมื่อวันที่ 6 พ.ย.
“อย่าเพิ่งสรุป ต้องดูด้วยมันมีหลายปัจจัย เขาบอก ‘รถคันเดียวกันเลย สีเดียวกันเลย’ หรือไม่ก็ต้องไปดูที่ไซต์ก่อสร้าง” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงต้องเอาสายไฟฟ้าลงดินกลางถนน?
นายชัชชาติกล่าวว่า บ้านเราสายไฟฟ้าอยู่ข้างบนดิน หากอยากเอาสายไฟฟ้าลงดิน ก็ต้องขุดเอาลงไปมุดไว้ใต้ถนน
“ถ้าไปขุดตามบ้านชาวบ้าน เขาคงไม่ให้ไปหรอก ก็ต้องลงดิน ทีนี้มันลงลึกไปเกือบ 20 เมตร เพื่อหลีกเลี่ยงฐานราก ก็เลยต้องอยู่กลางถนน ที่เราอยากให้บ้านเมืองสวย สายไฟลงดินก็ต้องเอาลงไปไว้ใต้ถนน” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวภายหลังการลงพื้นที่อีกว่า อาจจะต้องเชิญกรมทางหลวงและตำรวจมาช่วย เข้มงวดเรื่องนี้ น้ำหนักน่าจะเกิน
“รถสิบล้อน่าจะ 25 ตัน เป็นข้อมูลคร่าวๆ ถ้าเขาบอก 24 คิว คิวละ 1.5 ตัน ดินแน่นเลย ก็น่าจะ 36 ตัน น่าจะเกิน ถ้าถนนสี่แผ่นก็น่าจะคานเดียวกัน เป็นปล่อง” นายชัชชาติเผย
เมื่อถามว่าเป็นบ่ออะไร?
นายชัชชาติชี้ว่า น่าจะเป็นท่อสายไฟฟ้าลงดิน ของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งจะมีท่ออยู่ใต้ดินลึกลงไป 20 เมตร เพื่อเอาสายไฟลงดิน แล้วก็มีชาร์ปเพื่อลงไปเซอร์วิซ ซึ่งจะปิดเวลาทำงาน หลัง 4 ทุ่ม ก็เปิดเอาคนลงไปทำงาน ตี 5 ก็ปิด หล่อเป็นฝา
“มันจะคนละรูแบบกับที่เกิดมักกะสันเมื่อวาน ซึ่งเป็นท่อของเราเอง เป็นไปป์แจ็คกิ้งหรือ ท่อสำหรับระบายน้ำ แต่รูปแบบการก่อสร้างคล้ายๆ กัน เป็นอุโมงค์ที่เป็นชาร์ปลงไปแบบนี้ แต่อุโมงค์ไม่ได้ลึกของเรา ที่มักกะสันลึก 7 เมตร ปัญหาที่นีไม่ใช่ความลึก แต่คือช่องว่างในการวางแผ่นคอนกรีตไว้ข้างบน” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ จะมีการควบคุมรถบรรทุกที่วิ่งตามถนนหรือไม่ ?
นายชัชชาติกล่าวว่า อย่างที่บอกว่า กทม.ความจริงแล้วเทศกิจเราก็ไม่เคยไปวัดน้ำหนักรถ แต่ว่าก็ต้องคุยกับทุกภาคส่วน ต้องมีมาตรการเข้มข้นขึ้น
“ถ้าเราไปตั้งด่านที่ถนน คงวุ่นวาย รถติดน่าดูเลย ได้คุยกับรองผู้ว่าฯอย่างบ่อตักดิน ก็จะไปสุ่มวัดที่บ่อขุดดินเลย หรือไม่ก็เป็นเงื่อนไขการก่อสร้างแบกน้ำหนัก ซึ่งตอนนี้เราก็มีเงื่อนไขแล้วว่า ถ้าไซต์ไหนปล่อยควันพิษเราจะให้หยุดก่อสร้าง ต่อไปถ้ามีรถแบกน้ำหนักเข้าไซต์ก่อสร้าง ก็ให้ไซต์ก่อสร้างรับผิดชอบด้วย” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามต่อว่าใน กทม.มีจุดเช่นนี้เยอะหรือไม่?
นายชัชชาติเผยว่า จุดที่เป็นบ่ออย่างนี้ ถ้าของการไฟฟ้านครหลวงอย่างเดียว น่าจะมีประมาณ 700 บ่อ แต่การไฟฟ้าก็ดูแลอยู่ ในแง่การควบคุมมาตรฐาน
“คลายกับเหตุเกิดที่ มักกะสัน รถกระบะตก แต่หักเพราะรถบรรทุกที่วิ่งไปก่อนหน้า รถบรรทุกหลบหนีไปได้ ตามจับอยู่นะคันนั้น น่าจะมีเบอร์ทะเบียน คงต้องไปตามอีกที บ่อนี้น่าจะลึก 15 เมตรเป็นชาร์ป เป็นบ่อที่ต้องเอาอุปกรณ์ลงไปทำงานด้านล่าง แต่เสาไฟฟ้ายังอยู่เพราะยังไม่เสร็จ เมื่อเสร็จสายไฟจะอยู่ใต้ดิน แล้วก็หักเสา” นายชัชชาติกล่าว
- อ่านข่าว : ชัชชาติ รุดตรวจเหตุถนนยุบ ชี้อาจเป็นเพราะรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
- ด่วน! เกิดเหตุถนนทรุดตัว บริเวณแยกมักกะสัน เขตราชเทวี เจ้าหน้ารุดไปที่เกิดเหตุ