นักวิชาการชี้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมช่วยแหวกกลุ่มอำนาจเก่า ส.ส.ก้าวไกลจี้ สปส.จัดเวทีให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ เผยเห็นท่าทีผู้บริหารแล้ว ชักไม่แน่ใจว่าอยากจัดการเลือกตั้งจริงหรือไม่ หวั่นผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนไว้ 9 แสนคนมาใช้สิทธิน้อย เหตุอยู่ไกลหน่วยเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน รศ.ดร.นภาพร อติวานิชยพงศ์ อาจารย์วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการเลือกตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด)ประกันสังคมว่า หากมองจำนวนผู้ประกันตนมาลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง 945,609 คน จากผู้ประกันตนที่มีสิทธิทั้งหมดกว่า 14 ล้านคน เป็นสัดส่วนที่ไม่ถึง 10% ซึ่งถือว่าน้อย แต่การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งแรก ที่ผ่านมาผู้ประกันตนส่วนมากไม่รู้จักบทบาทของบอร์ดประกันสังคมว่ามีหน้าที่อะไร ก็คงเป็นจุดอ่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้ระบบที่เลือกบอร์ดกันเข้ามาทำให้ได้ตัวแทนที่อาจไม่ค่อยได้ทำงานอะไรจริงจังและไม่มีผลงาน
“ก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้น คิดว่าตัวแทนที่ได้จากการเลือกตั้งโดยตรงของผู้ประกันตนก็น่าจะทำให้ บอร์ดชุดนี้มีบทบาทมากขึ้น เลือกตั้งครั้งต่อไปก็น่าจะดีขึ้นในแง่ของคนที่สนใจจะเข้ามาเลือก” อาจารย์วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ กล่าว
รศ.ดร.นภาพร ยังกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งน่าจะทำให้กลุ่มอำนาจเดิมๆที่เคยอยู่ในบอร์ดประกันสังคมกลับเข้ามามีบทบาทได้ยากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเลือกบอร์ดโดยสหภาพแรงงานเลยทำให้มีบางกลุ่มสามารถได้คะแนนจากการจัดตั้งของสหภาพแรงงานได้ แต่คราวนี้คงไม่ได้แล้วเพราะผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง 9 แสนกว่าคน คงไม่สามารถคุมเสียงจัดตั้งได้อย่างเมื่อก่อน ก็อาจจะมีบ้างคนเก่าแต่ก็คิดว่าอาจจะน้อยแล้ว
ส่วนผู้ที่จะเข้ามาทำงานเป็น 7 คณะกรรมการประกันสังคมนั้น รศ.ดร.นภาพร กล่าวว่า มีการพูดกันมานานอยากจะให้มีการปฏิรูประบบประกันสังคม แม้จะมีการบริหารโดยไตรภาคี 3 ฝ่าย แต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่รัฐมีบทบาทบริหารเป็นหลัก ที่หลายๆคนเรียกร้องก็คือว่าอยากให้การบริหารงานเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับรัฐแต่เป็นไปตามความต้องการของผู้ประกันตนทั้งลูกจ้างและนายจ้าง เมื่อรัฐบริหารเป็นหลัก บางครั้งอาจจะกลัวว่านำเงินก้อนใหญ่ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ กรรมการก็ต้องตรวจสอบดูแลการใช้เงินกองทุนให้เป็นไปเพื่อสวัสดิการของลูกจ้างอย่างแท้จริง
นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตแกนนำสหภาพนักขับเคลื่อนต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงาน กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่บอร์ดในอนาคตต้องมีคือจะต้องรับฟังปัญหาของสมาชิก และการบริหารที่จะทำให้ประกันสังคมเจริญเติบโต
“ทีมผู้บริหารหรือบอร์ดประกันสังคมที่ผมอยากให้มี คือต้องมีวิสัยทัศน์มองเห็นประกันสังคมว่าจะไปในทิศทางใด ที่จะทำให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เติบใหญ่และเป็นที่พึ่งของผู้ประกันตนได้อย่างแท้จริง เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตก็สำคัญเพราะมันเป็นเงินก้อนที่ใหญ่มาก หนึ่งในหลักสำคัญของนักบริหารเลยก็คือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต” นายเซีย กล่าว
ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า พอเข้าสู่ระบบการเลือกตั้ง 1 คน 1 คะแนน ก็จะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น เห็นนโยบายที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีคำถามจากผู้ประกันตนรวมถึงตนด้วย เพราะสงสัยว่าตกลงขณะนี้ สปส.อยากให้มีการเลือกตั้งจริงหรือ ตอนที่ตนยังเป็นผู้ประกันตนอยู่ และยังไม่ได้สมัคร ส.ส. เคยทวงถามหลายรอบว่าเมื่อไหร่จะจัดให้มีการเลือกตั้งซึ่งก็ถูกบ่ายเบี่ยงเลื่อนมาตลอด
“ผู้ประกันตนที่อาสารับสมัครเลือกตั้งเป็นบอร์ดประกันสังคม จำนวน 247 คนนั้น ทางสปส. และภาคประชาชนต่างๆ ควรจัดเวทีให้คนอาสาเข้ามาได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์เช่นเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อให้ผู้ประกันตนเห็นว่าคนกลุ่มนี้ที่อาสาเข้ามาทำงานดูแลกองทุนประกันสังคมมีนโยบายในการบริหารอย่างไร ก่อนจะตัดสินใจเลือกทีมผู้ประกันตนทีมไหน คนใด สปส.ควรที่จะประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้คนมาเลือกตั้งให้มากที่สุด คนลงทะเบียนกว่า 9 แสนคน ท้ายที่สุดแล้วจะมาเลือกตั้งกี่คนก็ยังไม่ทราบ วันก่อนผมลงพื้นที่ต่างจังหวัดได้คุยกับพนักงานประกันสังคมจังหวัด เขาบอกว่าหน่วยเลือกตั้งในจังหวัดที่เขาดูแลต้องเดินทางไป-กลับ 100 กว่ากิโลเมตร ไม่รู้ว่าผู้ประกันตนจะไปเลือกตั้งหรือไม่ นี่คือปัญหา” นายเซีย กล่าว