ผู้เชี่ยวชาญแจง บะลาโกล คือเสือป่าล้าน%ไม่ใช่เสือน้อยไร้เขี้ยวเล็บ ไม่ได้มีความเชื่อง ภาพน่ารักที่เห็นคือถ่ายได้ตอนเผลอ แต่ยังต้องอยู่ในกรงเพราะเฝ้าสังเกตแผลผ่าตัดตา
กรณีมีการนำเสนอภาพ เสือ บะลาโกล ซึ่งเป็นลูกเสือ ที่ออกมาจากป่าคลองลาน โดยมาเดินอยู่ในหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานฯช่วยกันจับได้ โดยสภาพของบะลาโกลในตอนนั้นคือ ผอมโซ ดวงตาอักเสบ และเวลานี้เจ้าหน้าที่นำบะลาโกล ไปพักฟื้นอยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดยล่าสุด สัตวแพทย์ยังพบว่า ตาข้างซ้ายของบะลาโกลอักเสบอย่างรุนแรง จะต้องผ่าตัดเอาออกด้วย มิฉะนั้น เชื้ออาจจะลุกลามไปยังตาด้านขวาได้นั้น
วันที่ 19 มีนาคม เฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP โดยกลุ่ม นักวิจัยเสือโคร่ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
บะลาโกล เสือป่าล้าน%
แหม! เห็นนอนอ้วนเป็นหลามบ่อยๆ ก็คิดว่าเป็นเสือน้อยไร้เขี้ยว เล็บ กันเสียแล้ว
ความจริงมันมีอยู่ว่า เสือบะลาโกลมีลูกตาฝั่งซ้ายที่ใช้การไม่ได้มานานพอควรแล้ว
หากปล่อยไว้อาจเป็นสาเหตุให้ลามไปอีกฝั่งได้ เป็นสาเหตุให้คุณหมอผู้ชำนาญโรคตาตัดสินใจผ่าเอาข้างซ้ายออกเพื่อให้มั่นใจว่าข้างขวาจะไม่มีโอกาสติดเชื้อไปด้วย
หลังจากผ่าตัดการติดตามเฝ้าสังเกตแผลผ่าตัดเป็นสิ่งจำเป็น หากพบอักเสบติดเชื้อ หรือเสือขยี้จนแผลเย็บหลุด ก็ต้องรักษาอย่างทันท่วงที
พี่หมอคนแม่นปืน 2024 ก็ภาระงานรัดตัว ขณะที่ทีมพี่เลี้ยงสัตว์ของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้งก็ไม่ได้ถนัดถ่ายภาพสักคน จอมบงการคนหนึ่งจึงร้องขอให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาการจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่าที่ 1 (ภาคกลาง) ซึ่งมีทักษะการถ่ายภาพพร้อมด้วยอุปกรณ์ เข้าสังเกตอาการบะลาโกลต่อเนื่องในช่วง 7 วันหลังผ่าตัด เพื่อส่งภาพรายงานคุณหมอชำนาญโรคตาที่เชียงราย รวมถึงพี่หมอมือแม่นปืนที่คิวแน่นด้วย
บรรดาภาพหรือคลิปที่ได้เห็นว่านอนตัวกลมนั้น เป็นภาพที่ถ่ายได้ดียามมันนอนเผลอ
แต่ถ้ารู้ตัวว่าโดนแอบส่องไม่ว่าจะเป็นปืนยาสลบหรือกล้อง งานยากมาในทันที
ซึ่งช่างภาพเคยเล่าว่า “จังหวะที่น้องเห็นหนูแล้วพุ่งเข้าในระยะ 10 เมตร เวลา 3 วินาที ใจหนูนี่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย”
หากคิดว่าทำไมช่างภาพไม่หลบหลังต้นไม้ใหญ่ให้มิดชิดก่อนยกกล้องขึ้นบันทึก
แอดขอตอบเองเลยว่า “ในบริเวณนั้นไม่มีต้นไม้ใดที่คู่ควรกับช่างภาพสาวของเราที่สวยงามราวสมเสร็จ” ซึ่งต้องใช้ความพยายาม อดทนและนิ่ง มีเพียงสายเหงื่อที่ได้เคลื่อนที่โดยการหยดหรือไหลจากใบหน้าลงลำคอในการเฝ้ารอเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการในแต่ละวัน
ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์คือช่างภาพสมัครเล่นอีกหนึ่งนางสาวที่ได้ถูกส่งไปสังเกตการณ์และบันทึกความแม่นในการให้ยาแก้อักเสบของพี่หมอ ซึ่งเป็นการบันทึกอยู่นอกคอกที่ล้อมด้วยตาข่ายแน่นหนา แต่ว่าเมื่อ บะลาโกลวิ่งเข้าหาตามทิศทางลูกดอกยา ช่างภาพก็ละกล้องแล้ววิ่งหนีบะลาโกลด้วยความตกใจ
บะลาโกลอยู่ในคอกฟื้นฟู แต่ไม่ได้มีความเชื่อง หรือยอมให้คนได้เข้าใกล้
โปรดเข้าใจกันใหม่ว่า บะลาโกลเป็นเสือป่าที่มีสัญชาตญาณนักล่าอยู่เต็มพิกัด
อยู่ในคอกแม้ว่าไม่ต้องแก่งแย่งเรื่องหากิน
แต่ถ้ามันได้กลับถิ่นซึ่งคือ ป่าธรรมชาติ มันจะได้ทำหน้าที่ “นักล่า”
ซึ่งสำคัญต่อระบบนิเวศ แต่ถ้าอยู่ในคอกมันจะเป็นเพียง “ภาระ” จนสิ้นลม
#บะลาโกล เสือป่า
#ช่วยกระจายสู่สังคมวงกว้างเพื่อสร้างความเข้าใจ ที่ถูกต้อง