อธิบดีกรมอุทยานฯสั่งชุดพญาเสือล่านายทุนสั่งเต่าปูลูส่งนอกหลังจับผู้กระทำผิดได้ที่อุทยานผาแดง เกรงลุกลามไปในพื้นที่ป่าอื่นๆล่าสุดพบหลักฐานทั้งคนกลางและชาวต่างชาติคนสั่งซื้อ
จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง ร่วมกับชุดทหารชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพ บก.ผาดง ร่วมกันตั้งจุดสกัดเพื่อคัดกรองคนเข้าป่า ตามยุทธการเสือเฝ้าป่าบริเวณบ้านรินหลวง หมู่ 3 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันดังกล่าว พบชายขับรถจักรยานยนต์เพื่อจะผ่านด่านตรวจ มีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น พบเต่าปูลูในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ที่สะพายอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 17 ตัว (16 ตัวยังมีชีวิตอยู่ 1 ตัว ได้ตายไปแล้ว) น้ำหนักรวม 7.8 ก.ก. เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมชายดังกล่าวไว้เนื่องจากเต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พร้อมทำการสอบสวนขยายผล ทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลัง ชื่อนายยูดะ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวบ้านแกน้อย (หย่อมบ้านนาศิริ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
นายยูดะกล่าวว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายแดง (ไม่ทราบนามสกุล) คนอำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งรู้จักกันตอนไปทำงานด้วยกันที่ในเมืองเชียงใหม่เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว โดยตนและนายแดงได้ติดต่อกันผ่านช่องทาง messenger โดยนายแดงใช้ชื่อ ดาเนียล จากการตรวจสอบพบข้อความการสนทนาซื้อขายเต่าปูลูและการนัดหมายส่งของ โดยนายแดงได้ว่าจ้างให้นายยูดะหาเต่าปูลู โดยจะให้ค่าจ้างหลังส่งเต่าเสร็จในราคากิโลกรัมละ 2,400 บาท ซึ่งนายยูดะระบุว่าตนเริ่มได้ทำการล่าตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนเป็นต้นมาใช้เวลาล่าอยู่ประมาณ 10 วัน และได้นัดหมายส่งเต่าปูลูกันที่บ้านห้วยป่าฮ่อม หมู่ 5 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่มาโดนเจ้าหน้าที่จับเสียก่อน ดังที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนได้กำชับสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกแห่ง เข้มงวดสอดส่องดูแลการล่าสัตว์ในพื้นที่โดยเฉพาะเต่าปูลู ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก เพื่อป้องกันขบวนการลักลอบจับเต่าปูลู โดยหากพบการกระทำผิด ให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทุกราย ล่าสุดได้สั่งชุดพญาเสือดำเนินการสืบสวนหาตัวกลุ่มนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังที่สั่งเต่าปูลูส่งนอก หลังจับกุมผู้กระทำผิดได้ที่อุทยานแห่งชาติผาแดง เกรงลุกลามไปในพื้นที่ป่าอื่น ๆ เนื่องจากพบหลักฐานทั้งคนกลางและชาวต่างชาติซึ่งเป็นคนสั่งซื้อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
