ปิดป่าห้วยขาแข้ง ระดมกำลังจนท.ล่านกยูงสีขาวพันธุ์อินเดียหลุดจากวัด หวั่นผสมพันธุ์นกยูงไทย ทำเสียสายพันธุ์
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจากนายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ว่ามีช่างภาพถ่ายภาพนกยูงอินเดียและนกยูงพันธุ์ผสมได้ที่บริเวณหอดูสัตว์โป่งช้างเผือกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นนกยูงอินเดียสีขาวและนกยูงที่คาดว่าเป็นลูกผสมหากินปะปนร่วมกับฝูงนกยูงไทยประมาณ 10 ตัว บริเวณหอดูสัตว์โป่งช้างเผือก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
นายอรรถพลกล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งช่วยกันจับนกยูงทั้ง 2 ตัวออกมาจากป่าทันที เพราะมิฉะนั้นแล้วจะไปผสมพันธุ์กับนกยูงพันธุ์ไทยในป่าห้วยขาแข้ง ทำให้นกยูงพันธุ์ไทยในห้วยขาแข้งเสียสายพันธุ์ และอาจจะอ่อนแอลง
“ในตอนนี้จึงขอปิดป่าห้วยขาแข้งชั่วคราว พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่า เจ้าหน้าที่จุดสกัดโป่งช้างเผือก นักวิชาการสัตว์ป่า รวมเกือบ 20 นาย ช่วยกันค้นหาและจับนกยูงอินเดียสีขาวและนกยูงพันธุ์ผสม โดยต้องจับให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะไปผสมพันธุ์กับนกยูงไทยตัวอื่นๆ” นายอรรถพลกล่าว
อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า ล่าสุด ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบนกยูงทั้ง 2 ตัวเดินหากินปะปนกับนกยูงไทยประมาณ 10 ตัว มาตามลำห้วยทับเสลา และหากินอยู่ปนะมาณครึ่งชั่วโมงจึงเดินข้ามลำห้วยทับเสลาเข้าไปในป่าด้านตรงข้าม จากการสังเกตเจ้าหน้าที่รายงานว่านกยูงอินเดียตัวสีขาวนั้นมีการเดินที่ไม่แข็งแรง หยุดพักบ่อย โดยมีนกยูงที่คาดว่าเป็นลูกผสมเดินอยู่ใกล้เคียง
เมื่อถามว่า นกยูงอินเดียสีขาวและนกยูงพันธุ์ผสมนั้นมาจากไหน นายอรรถพลกล่าวว่า มีรายงานจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ห่างจากพื้นที่ป่าห้วยขาแข้งไปประมาณ 10 กิโลเมตรจะมีวัดแห่งหนึ่งที่เลี้ยงนกยูงอินเดียไว้ สำหรับให้ส่งเสียงร้องตอนเช้าแทนนาฬิกาปลุก และเข้าใจว่าพระจะอุ้มนกยูงออกมาจากวัดและนกยูงหลุดบินเข้าไปในป่า และบังเอิญนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเอาไว้ได้
“อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรีบดำเนินการเป็นเรื่องการรักษาไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ โดยป่าห้วยขาแข้งเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง หากปล่อยให้นกยูงต่างเผ่าพันธุ์มาผสมกับนกยูงพื้นถิ่นที่มีจำนวนประชากรน้อยอยู่แล้ว ในที่สุดนกยูงไทยก็จะหายไปหมด จึงต้องจับมาให้ได้ และนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าที่ใกล้ที่สุด” นายอรรถพลกล่าว