เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นพ.สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผอ.โรงพยาบาลแม่สอด จ. ตาก กล่าวถึงกรณีลูกชายนายก อบต. จ.ตาก อายุ 42 ปี เสียชีวิต หลังเข้าพบแพทย์ในวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา และมาเสียชีวิตในวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาซึ่งป่วยเพียง 1 วันก็เสียชีวิต ซึ่งสร้างความตื่นกลัวให้กับประชาชน ว่า ผู้เสียชีวิตเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก และจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์เอ ซึ่งอาการโดยทั่วไปไม่มีอะไรมาก แต่เนื่องจากเป็นสายพันธ์ เอ จึงต้องให้ให้ยาโอเซลทามิเวียร์ แต่ก่อนหน้าที่จะป่วยผู้เสียชีวิตได้มีการข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ทางฝั่งแม่สอด หลังจากนั้นผู้ป่วยก็เข้ามารับการรักษาด้วยอาการไข้ แต่ไม่มีภาวะอย่างอื่นร่วมด้วย จากการตรวจฟิลม์เอ็กซเรย์ก็ไม่มีอาการเหนื่อยจึงไม่ต้องนอนโรงพยาบาล จึงให้ยาและให้ผู้ป่วยกลับไปพักผ่อนที่บ้าน พอตื่นเช้ามาก็รับประทานอาหารได้ปกติ แต่ผู้ป่วยอยู่บ้านคนเดียว แต่ภรรยาก็โทรมาสอบถามอาการตลอด แต่พอภรรยากลับมาถึงบ้านกลับพบผู้ป่วยก็เสียชีวิต
นพ.สุชาติ กล่าวต่อว่า จากการประเมินเหตุการณ์คาดว่า การเสียชีวิตนั้นเกิดจาก เชื้อไข้หวัดคงเข้าสู่หัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จนเป็นเหตุให้หัวใจเต้นผิดปกติ และเกิดหัวใจวายกระทัน ทำให้เสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนลักษณะนี้ไม่ได้พบบ่อยจากการสอบสวนโรค ขณะนี้ที่แม่สอดไม่ได้พบอัตราการป่วยมากกว่าปี 2559 แต่เท่าที่ทราบทางฝั่งเพื่อนบ้าน มีการระบาดและมีประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามารับวัคซีนเป็นจำนวนมาก แต่ในฝั่งไทยไม่พบผู้ป่วยมากกว่าปกติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลบ้าง อย่างไรก็ตามหากประชาชนรู้ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นต้น ก็ขอให้เข้ามารับวัคซีนที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นตนก็จะทำการรายงานไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ด้วย และจะมีการกำชับในพื้นที่ให้มีการเข้มงวดเรื่องการป้องกันเชื้อมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญประชาชนต้องป้องกันสุขภาพของตัวเอง หากป่วยก็ให้พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด เป็นต้น
