เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 สิงหาคม ที่บริเวณหน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ตัวแทนชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา นำโดยนายดิเรก เหมนคร รวมตัวกันแสดงเชิงสัญลักษณ์ค้านรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(อีเอชไอเอ) การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
นายดิเรก กล่าวว่า แถลงการณ์ฉบับที่ 1 ปกป้องเทพาจากถ่านหิน ว่า การที่รัฐบาลและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พยายามเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,200 เมกกะวัตต์ ใช้พื้นที่ก่วา 3,000 ไร่ และได้จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาจัดทำรายงานอีเอชไอเอ โดยทำเพื่อให้ครบตามกระบวนการกฎหมาย แต่ไม่ได้สนใจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง ไม่ได้ให้ชาวบ้านที่เห็นต่างร่วมรับฟัง โดยเฉพาะขั้นตอนการทำเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2558 ผู้ว่าราชการ จ.สงขลาขณะนั้น ได้มีคำสั่งติดประกาศสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่คัดค้านเข้าร่วมเวที
นายดิเรก กล่าวต่อว่า ไม่ได้ปฏิเสธการผลิตพลังงาน แต่ เป็นห่วง การใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า เพราะ ไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายกับคนในพื้นที่เกือบ 300 ครัวเรือน มีศาสนสถานทั้งชาวพุทธและมุสลิม ซึ่งไม่ใช่แค่ชาวเทพาเท่านั้นแต่รวมไปถึงผู้คนและชุมชนในพื้นที่จ.สงขลา และจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย สำหรับร่างรายงานอีเอชไอเอได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการชำนาญการแล้ว และจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาในเร็วๆนี้ ก่อนนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อเห็นชอบต่อไป ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับการศึกษาที่ไม่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพต่ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายดิเรก ได้กล่าวแถลงการณ์เสร็จสิ้นแล้ว ได้ขอดูอาอ์หรือขอวิงวอนจากพระเจ้า โดยอ่านยาซีนที่เป็นบทบัญญัติบทหนึ่งในคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อสื่อสารถึงพระผู้เป็นเจ้าให้พระองค์รับรู้ถึงสาเหตุความทุกข์ร้อนที่เกิดขึ้นจากการกดขี่จากอำนาจใดก็ตาม เพื่อให้พระองค์ได้สื่อสารและประทานความเมตตาไปยังผู้คนและชุมชนที่กำลังจะหมดลมหายใจทุกคนทุกหนแห่ง และวิงวอนให้พระผู้เป็นเจ้าได้ปกป้องผู้คนและชุมชนทั้งหลายให้รอดพ้นจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้กลุ่มชาวบ้านจะรวมกันอยู่บริเวณหน้าทส.จนถึงเวลา 16.00 น. แล้วกลับที่พัก จากนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จะมาใหม่ เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ค้านรายงานอีเอชไอเอ ตลอดทั้งวัน ซึ่งนายดิเรก ยืนหยัดว่าจะเดินทางมายังทส.ต่อเนื่องทุกวัน และยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับพื้นที่ไปเมื่อไหร่ จนกว่าจะได้คำตอบหรือมีการทบทวนผลการศึกษาอีเอชไอเอจากผู้ที่มีอำนาจในเรื่องนี้
