เล็งให้’ผู้ว่าฯ-นอภ.-นายกฯ’โหลดแอพพิทักษ์ไพรใช้เอง หลังสมาร์ทโฟน 400เครื่องไม่พอ

‘ป่าไม้’ เล็งให้ ‘ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ-นายก’ โหลดแอพพิทักษ์ไพรใช้เอง หลังสมาร์ทโฟน 400 เครื่องไม่พอ

เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ กรมป่าไม้ได้รับมอบโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อซัมซุงจากบริษัท ทรู จำกัด จำนวน 400 เครื่อง ภายใต้โครงการซีเอสอาร์ของบริษัทฯ โดยทุกเครื่องได้ลงแอพพลิเคชั่นพิทักษ์ไพรที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (มหาชน) (จิสด้า) เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของพื้นที่ป่าทั่วประเทศ โดยเฉพาะปัญหาบุกรุกป่า ก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้กับเครือข่ายพยัคฆ์ไพรทั่วประเทศไปแล้ว พร้อมได้รับรายงานว่า ที่ผ่านมา ระบบทำงานของแอพพ์ฯ ที่รับสัญญาณดาวเทียมจากระบบดาวเทียมของจิสด้าสามารถตรวจสอบความผิดปกติของป่าที่ถูกบุกรุกได้ประมาณ 1,000 จุดทั่วประเทศ และดำเนินคดีไปแล้ว 200 จุด ส่วนที่เหลือ 800 จุด อยู่ระหว่างตรวจสอบความผิด บางจุดพบว่าเป็นพื้นที่ทำไร่เลื่อนลอยของเกษตรกรในลักษณะไร่หมุนเวียน เนื่องจากดาวเทียมมีความละเอียดมาก สามารถรายงานผลได้อย่างรวดเร็วตลอด 2 นาที ทำให้แอพพ์ฯ ดังกล่าวช่วยตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าได้อย่างรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับปฎิบัติการได้เป็นอย่างดี

นายชีวะภาพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ 800 จุด ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบนั้น พบว่าอยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน แม้บางพื้นที่เป็นการทำไร่เลื่อนลอยทางดาวเทียมก็ตรวจจับได้ทั้งหมด และกรมป่าไม้จำเป็นต้องจัดทำบันทึกเพื่อจะทำการควบคุมไม่ให้ขยายพื้นที่ป่า ส่วนพื้นที่อื่นจะกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉลี่ยพื้นที่ป่า 60 จังหวัด แต่ละจังหวัดได้รับรายงานจากแอพพ์ฯ ประมาณจังหวัดละ 10 จุด นับเป็นเรื่องที่ดีที่ส่วนใหญ่พบเป็นพื้นที่บุกรุกป่าขนาดเล็ก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เป็นการบุกรุกบริเวณกว้าง นอกจากนี้ ข้อมูลจากแอพพ์ฯ ทำให้สามารถพิชิตคดีใหญ่ได้หลายคดีเมื่อนำมาใช้ร่วมกับแนวทางการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ เช่น ขบวนการค้าไม้พยุงในภาคเหนือ ฯลฯ

“สำหรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายสมาร์ทโฟนนั้น ตัวเครื่องได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ทรูฯ ในราคาเครื่องละ 10,000 กว่าบาท แต่ค่าโทรศัพท์และค่าอินเตอร์เน็ต กรมป่าไม้ได้ดำเนินการในส่วนนี้เองในปีละประมาณ 3-4 แสนบาท โดยได้ทำสัญญากับบริษัทเป็นระยะ 3 ปี หรือรวมเป็นรายจ่ายประมาณล้านกว่าบาท โดยต้องขอเรียนว่า เดิมทีกรมป่าไม้ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อนำไปซื้อสมาร์ทโฟนในการติดตั้งแอพพ์ฯ อยู่แล้ว แต่บริษัทได้ประสานว่าจะดำเนินการโครงการซีเอสอาร์และออกค่าใช้จ่ายส่วนสมาร์ทโฟนเพื่อให้กรมป่าไม้ไปใช้งาน ทำให้เดิมต้องจัดสรรงบประมาณค่าเครื่องไปจำนวนมาก ทำให้เหลืองบประมาณชำระค่ารายเดือนได้เพียง 4-5 เดือน กระทั่งต่อมาได้เจรจากับบริษัทก็ได้มีโปรโมชั่นต่างๆ ทำให้สามารถยืดงบประมาณชำระรายเดือนส่วนนี้ไปได้ถึง 3 ปี และปัจจุบันอยู่ระหว่างขอการสนับสนุนจากบริษัทเครือข่ายเพื่อให้ใช้สมาร์ทโฟนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” นายชีวะภาพ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟน 400 เครื่อง ได้ทำการแจกจ่ายแก่เครือข่ายทั้งหมดแล้ว แต่พบว่ายังไม่เพียงพอต่อหน่วยงาน เนื่องจากเครือข่ายพยัคฆ์ไพรทั่วประเทศ 500 หน่วย ที่ดูแลผืนป่า ส่วนที่เหลือ ในระยะต่อไปกรมป่าไม้ก็อยู่ระหว่างเจรจาขอสนับสนุนสมาร์ทโฟนเพิ่มเติมเพื่อมอบให้พนักงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ทุกคน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และนายกรัฐมนตรี

Advertisement

นายชีวะภาพ กล่าวว่า กรมป่าไม้อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางเพิ่มเติมหากกรมป่าไม้ไม่ได้รับการสนุบสนันจากหน่วยงาน คือ ปัจจุบันเห็นว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ทั้งระดับปฎิบัติการและระดับสั่งการได้ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมืออยู่แล้ว อาจจะให้ดาวน์โหลดแอพพ์ฯ มาติดตั้งในมือถือได้เอง โดยจะประสานให้จิสด้าจัดทำแอพพ์ฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ตามแผนปฎิบัติงานโดยใช้เทคโนโลยีที่เข้ากับยุคสมัยและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขณะนี้อยู่หว่างการจัดทำแอพพ์ฯ เพิ่มเติมได้แก่ เครือข่ายพยัคฆ์ 5999 จะเปิดตัวในวันที่ 18 กันยายนนี้ เป็นลักษณะวิทยุสื่อสารผ่านแอพพ์ฯ ใช้ติดต่อสื่อสารจากดาวเทียมผ่านมือถือ เช่น หัวหน้าหน่วยสามารถติดต่อเครือข่ายผ่านทางแอพพ์ฯ นี้ครั้งละหลายร้อยคนเพื่อเรียกปฎิบัติการโดยไม่ใช้เสียค่าใช้จ่าย นอกเหนือจากการนำมาใช้ในเรื่องปฎิบัติการแล้ว ยังสามารถใช้ได้ขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน อุบัติเหตุ และภัยพิบัติทางธรรมชาติด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image