สบส.เอาผิดคลินิกศัลยกรรมหน้าอก ลำพูน ทำคนไข้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีสาวประเภทสองที่ จ.ลำพูน เสียชีวิตภายหลังการทำศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่งในจ.ลำพูน ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน (สสจ.) ได้ลงไปตรวจสอบคลินิกที่เกิดเหตุ โดยได้มีการยึดเครื่องมือแพทย์ เอกสารต่างๆ มาประกอบการพิจารณาแล้ว และคาดว่า สสจ.น่าจะสามารถรายงานผลเข้ามาที่ สบส.ได้เร็วๆ นี้ ส่วนเจ้าของกิจการนั้นตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่สามารถติดตามตัวได้

นพ.ธงชัยกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น เจ้าของกิจการคลินิกดังกล่าวเป็นผู้หญิงอายุยังไม่มาก ก่อนหน้านี้เคยมาขออนุญาตเปิดคลินิกศัลยกรรมจาก สบส.เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ สสจ.ลำพูนตรวจสอบแล้วว่าคลินิกดังกล่าวยังไม่ได้มาตรฐานทั้งในเรื่องของเครื่องมือแพทย์ และตัวแพทย์ที่จะปฏิบัติงานจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการ เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคลินิกดังกล่าวลอบให้บริการศัลยกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมายของ สบส. ซึ่งตัวผู้ประกอบกิจการจะต้องมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่อยู่ในกระบวนการผ่าตัดนั้นต้องดูว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือไม่ โดยมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นแพทย์ และวิสัญญีแพทย์จริงจะต้องส่งให้แพทยสภาพิจารณาเรื่องจริยธรรมด้วย

รองอธิบดี สบส.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่จะศัลยกรรมต่างๆ ต้องเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ขออนุญาตถูกต้อง โดยดูจากสถานที่สะอาดได้มาตรฐานหรือไม่ ดูว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะมีการแสดงใบอนุญาตที่มีเลข 11 หลักให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ถึงมีก็ควรจะตรวจสอบซ้ำโดยนำเลข 11 หลักดังกล่าวเข้ามาตรวจสอบที่เว็บไซต์ของ สบส. ว่าเป็นเลขที่ขออนุญาตจริงหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องดูด้วยว่าผู้ที่ให้บริการนั้นเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจริงๆ หรือไม่ ซึ่งจะมีเอกสารแสดงให้เห็นชัดเจนที่สถานพยาบาลเช่นเดียวกัน โดยสามารถนำชื่อแพทย์คนนั้นนั้น มาตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา และก่อนจะทำจริงต้องดูว่าแพทย์ที่ทำให้นั้นมีใบหน้าตรงกับที่แสดงหลักฐานเอาไว้หรือไม่ หรือให้ใครมาทำแทน

“แม้ว่าสถานพยาบาลจะดูดีแค่ไหนแต่ก็อย่าเพิ่งเชื่อ ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ มีผู้ประกอบวิชาชีพเป็นคนทำหรือเปล่า ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องหมอกระเป๋าที่หิ้วอุปกรณ์ไปทำตามสถานที่ต่างๆ นั้นไม่ว่าจะทำศัลยกรรมจุดไหนก็อันตรายมาก อย่าไปทำ เวลาเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ แถมตามตัวก็ไม่เจอ บางคนฉีดฟิลเลอร์ตาบอด ส่วนการทำศัลยกรรมหน้าอกที่ผ่านมามักมีปัญหาหน้าอกเน่า อักเสบ กรณีเสียชีวิตก็มีแต่มักเกิดจากการดมยาสลบ” นพ.ธงชัยกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image