“พยัคฆไพร-บก.ปทส.-กอ.รมน.”บุกเต็นท์รถหรู ล่าแก๊งตัดไม้ข้ามชาติ ชี้เป็นขบวนการอุกอาจลักลอบฟัน “พะยูงยักษ์”

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยความคืบหน้าแผนการปฏิบัติการขยายผล ต่อกลุ่มขบวนการลักลอบไม้พะยูงรายใหญ่ข้ามชาติ ที่ยิงต่อสู้ขัดขวางการเข้าจับกุมของชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ในเขตสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายได้ 3 รายและหลบหนีไปได้เกือบ 20ราย โดยเจ้าหน้าที่จาก 4หน่วยงานหลักได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปก.พป) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยกองบัญชาการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่4 กอ.รมน.และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมบูรณาการเพื่อขยายผลต่อกลุ่มขบวนการนั้น พบว่าขบวนดังกล่าวเป็นขบวนการใหญ่ระดับต้นของประเทศ ผู้ร่วมขบวนการจำนวนมากและผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับพบว่าเป็นทั้งชาวไทยที่มีคดีลักลอบไม้พะยูงหลายคดี และชาวเวียดนามซึ่งมีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวการบังคับใช้กฎหมายจากเจ้าหน้าที่

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากข้ามชาติ มีการปลอมแปลงรถยนต์หรู เพื่อมาดัดแปลงสำหรับใช้ในการ ลักลอบไม้พะยูงซึ่งเป็นขบวนการของกลุ่มอิทธิพลและมีความซับซ้อนของขบวนการสูง โดยล่าสุดวันที่ 31 ตุลาคม นี้ พ.ต.อ. ปัญญา ปิ่นสุข รักษาการแทน ผบ.บก.ปสท. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป4.กอ.รมน. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร (ศปก.พป)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบขยายผลรถยนต์ของกลางในคดี ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีการปลอมแปลงทะเบียนที่แท้จริง โดยผู้ครอบครองรถยนต์ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจำนำไว้ที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งเมื่อปี 2557 แต่ภายหลังรถยนต์คันดังกล่าวได้ถูกขายออกไปและนำมาใช้ก่อเหตุลักลอบขนไม้พะยูง คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบเต็นท์รถยนต์ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าของเต็นท์รถอ้างว่าไม่สามารถจำได้ว่าเป็นรถคันไหน เพราะตนเองรับจำนำไว้จำนวนมากและกล่าวอ้างว่าน่าจะเป็นรถที่นายหน้าค้ารถยนต์คนหนึ่งนำมาจำนำไว้ และได้ขโมยออกไป จำนวน 4คันหลายปีมาแล้ว แต่ไม่ได้มีการแจ้งความไว้แต่อย่างใด ซึ่งพ.ต.อ. ปัญญา เจ้าของเต็นท์รถและผู้เกี่ยวข้องไปบันทึกสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลตามหาผู้กระทำผิดต่อไป

Advertisement

ขณะที่ พ.ต.อ. ปัญญา กล่าวว่า วันนี้เป็นการบูรณาการกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกองบังชาการสอบสวนกลาง สำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่จาก กองบังคับการการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุมครองผู้บริโภค เข้าร่วมตรวจสอบและตรวจพบว่าเต็นท์รถยนต์ดังกล่าวที่เข้าตรวจสอบมีการกระทำผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอีกด้วย และจะขยายผลต่อกลุ่มขบวนการให้ถึงที่สุด

Advertisement

ด้านนายชีวะภาพ กล่าวว่า ต้นพะยูง 2 ต้นที่ถูกลักลอบตัดนั้น ต้นแรกเป็นต้นพะยูงยักษ์ขนาดเส้นรอบวง 300 ซม.ได้ถูกตัดฟัน เมื่อวันที่ 28 กันยายน และเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ก็ถูกตัดโค่นลงอีกต้นและตัดท่อนออกเป็น 6 ท่อน แต่กลุ่มคนร้ายยังไม่สามารถลักลอบนำออกไปได้ ชุดปฏิบัติการได้ร่วมกับนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน นำกล้อง NCAPS นำไปติดตั้งเพื่อสอดส่องและป้องกันการเข้ามาลักลอบไม้พะยูงที่เหลือจำนวน 2ต้นที่มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกันและอยู่ในบริเวณเดียวกัน แต่กลุ่มขบวนการก็ไม่เกรงกลัวนำกำลังไม่ต่ำกว่า 23 คนพร้อมรถยนต์จำนวนหลายคันเข้ามาลักลอบขนย้ายออกไป โดยขนย้ายกันริมถนนทางหลวงหมายเลข 304 ซึ่งมีความพลุกพล่าน ซึ่งถือว่าอุกอาจมาก

“ต้นพะยูงดังกล่าวถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดแล้วตั้งแต่เคยพบมา และทางสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อม สะแกราชกำลังจะใช้เนื้อเยื่อของต้นพะยูงต้นดังกล่าวสำหรับการขยายพันธ์ แต่ก็ถูกตัดโค่นไปเสียก่อนเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่จะหาแม่พันธ์ขนาดใหญ่แบบนี้ที่ไหนได้อีก และในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ จะบูรณาการหน่วยงานลงพื้นที่ขยายผลต่อเนื่องกับกลุ่มขบวนการอีกเป็นการต่อเนื่อง”นายชีวะภาพ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image