เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่กระทรวงแรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเพย์เมนต์ (e-Payment) ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารมิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป
นายจรินทร์ กล่าวว่า การให้บริการจ่ายเงินสมทบผ่านอีเพย์เมนต์ของธนาคารเครือข่ายแทนการยื่นแบบแสดงรายการที่เป็นเอกสารและลดการใช้เงินสดหรือเช็ค จะช่วยอำนวยความสะดวก ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดการใช้กระดาษแล้ว อีกทั้งยังมีการขยายระยะเวลาในการดำเนินการออกไปอีก 7 วัน โดยไม่มีการเสียค่าปรับ หรือเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม จากเดิมที่นายจ้างต้องจ่ายสมทบภายในวันที่ 1 ของเดือนเท่านั้น ทั้งนี้ การจ่ายเงินสมทบผ่านอีเพย์เมนต์เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงานเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 อีกทั้งยังเป็นโครงการประชารัฐที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ซึ่งอนาคตน่าจะมีการขยายความร่วมมือกันในรูปแบบโครงการประชารัฐอีก
ด้าน นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า นอกจากการเปิดช่องอำนวยความสะดวกให้นายจ้างสามารถทำเรื่องส่งเงินสมทบผ่านอีเพย์เมนต์ได้แล้ว ในส่วนของแรงงานนอกระบบที่ประกันตนตามมาตรา 40 ประมาณ 2.3 ล้านคน และอนาคตคาดว่าน่าจะมีถึง 3 ล้านคน ทางสปส.ได้มีการจัดระบบเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการจ่ายเงินสมทบในแต่ละเดือนผ่านตู้บุญเติมซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 แสนเครื่องทั่วประเทศ กระจายอยู่ทั่วประเทศนั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ลดการเดินทาง นอกจากนี้ การจ่ายเงินสมทบผ่านตู้บุญเติมปกติจะมีค่าธรรมเนียม 5 บาท แต่ผู้ประกันตนไม่ต้องเสีย เพราะสปส.จะรับผิดชอบจ่ายให้
