จากกรณีสังคมออนไลน์แสดงความเสียใจต่อกรณีพยาบาลโรงพยาบาลระนอง ประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะปฏิบัติหน้าที่นำส่งผู้ป่วยด้วยรถพยาบาล รพ.ระนอง ขากลับจากการส่งต่อผู้ป่วยไปยังรพ.วชิระภูเก็ต โดยประสบอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ไหล่ทางและเสียชีวิตนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ว่า สำหรับกรณีนี้เกิดจากการส่งต่อผู้ป่วยทางสมองจากรพ.ระนองไปยังรพ.วชิระภูเก็ต การเดินทางใช้เวลาไปกลับ 8 ชั่วโมง โดยอุบัติเหตุเกิดตอนเช้ามืด ซึ่งมีบาดเจ็บหลายคน แต่พยาบาลบาดเจ็บหนักและส่งรักษาตัวที่จ.ชุมพร แต่อาการสาหัสจนเสียชีวิต ทั้งนี้ สธ.ขอแสดงความเสียใจและกำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องมาตรการให้การช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างปฏิบัติหน้านี้นั้น ทางนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้ความสำคัญเรื่องนี้และได้มอบหมายให้รถพยาบาลทุกคันต้องมีมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ทั้งรถทุกคันต้องติดกล้อง ติดจีพีเอส และมีการประกันชั้น 1 ซึ่งได้ปฏิบัติหมด แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย เข้าใจว่าเป็นการเหนื่อยล้าของคนขับ ซึ่งมีเพียง 1 คน และต้องขับรถนาน 8 ชั่วโมง
“โดยหลักการขับรถต้องมีระยะเวลาเหมาะสม โดยทุก 2 ชั่วโมงหรือ 100 กิโลเมตรควรต้องมีการพัก เราก็มาดูว่าจะมีการจัดทำระเบียบอย่างไรได้บ้าง ซึ่งแม้ทุกวันนี้หลายแห่งจะมีการประเมินพนักงานขับรถแล้วก็ตาม โดยหากไม่ไหวก็จะมีที่พักให้กรณีรีเฟอร์ไกลๆ แต่ขณะนี้เรากำลังเตรียมเสนอกระทรวงการคลังกรณีปรับเปลี่ยนระเบียบการเบิกการอยู่เวรให้พนักงานขับรถ 2 คนพร้อมกันได้หรือไม่ เพราะต้องสลับกันขับรถ โดยกำลังจะเสนอคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ ส่วนการเยียวยานอกจากสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับอยู่แล้ว เบื้องต้นเราดูถึงครอบครัว ซึ่งมีลูก 2 คน โดยคนโตประกอบอาชีพแล้ว แต่ลูกคนเล็กเพิ่งจบนิเทศศาสตร์ ยังไม่มีงานทำ ทางสธ.กำลังพิจารณาว่าจะบรรจุเป็นลูกจ้างกระทรวงได้อย่างไรต่อไป” นพ.เจษฎา
ปลัด สธ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในระยะยาวจะมีการจัดทำระเบียบเพิ่มเติมให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงาน โดยได้ส่งให้แก่กระทรวงการคลังแล้ว ขณะนี้รอตอบกลับ ซึ่งในระเบียบจะกำหนดว่า หากเสียชีวิตจะได้รับการเยียวยา 4 แสนบาท พิการ 2.4 แสนบาท หากมีการติดเชื้อจากการปฏิบัติงาน 1 แสนบาท และหากติดเชื้อในระดับรุนแรงน้อยลงและได้รับการรักษาภายใน 20 วันจะได้รับเงินเยียวยา 5 หมื่นบาท ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้จะพิจารณาและหารือว่าจะขอใช้สิทธินี้ด้วย ซึ่งกำลังทำเรื่องขอใช้ระเบียบเยียวยานี้ตั้งแต่วันที่สธ.ส่งหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง
