วันที่ 7 ธันวาคม นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงกรณี ที่นักธุรกิจ จ.ปัตตานี เข้าแจ้งความว่า ไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หอมของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา เคยยึดเอาไว้เพื่อตรวจสอบระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดี เป็นเวลา 2 ปี แต่เมื่อตัวเองชนะคดีแล้วไปทำเรื่องขอไม้คืน ปรากฏว่า สภาพของไม้กฤษณาเปลี่ยนไป จากเดิมที่มีมูลค่า 65 ล้านบาท เหลือเป็นแค่เศษไม้เท่านั้น โดยตำรวจฝากเอาไว้กับหน่วยรักษาป่า นาทวี จ.สงขลา ว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว ว่าไม้หายไปได้อย่างไร มีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ขั้นตอนการรับของกลางมาเก็บเอาไว้นั้นเจ้าหน้าที่ทำถูกต้องตามระเบียบที่วางเอาไว้หรือไม่โดยให้ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) เป็นประธานสอบ
“สัปดาห์ที่แล้วผมเดินทางลงไปที่ภาคใต้ ได้ทราบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง สงสัยมากเช่นกันว่าไม้หายไปได้อย่างไร ให้สันนิษฐาน ก็เป็นไปได้ 2 ทางคือ หายช่วงที่นำมาเก็บเอาไว้ หน่วยรักษาป่า นาทวี จ.สงขลา หรือไม่ก็ของกลางที่นำมามอบให้ก่อนจะนำไปเก็บไว้นั้นไม่ใช่ของเดิม หากของกลางที่สมบูรณ์แบบแต่เดิม และยังถูกเก็บเอาไว้ในกระเป๋าหรือกล่องอย่างมิดชิด โอกาสที่จะเปลี่ยนรูปร่างทั้งขนาดและน้ำหนักนั้นน้อยมาก อันนี้ทราบว่าแม้กระทั่งน้ำหนักยังหายไปจำนวนมากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผมว่าการบอกมูลค่าราคาของกลางที่สูงถึง 65 ล้านบาทนั้นสูงเกินไปหรือไม่”นายอรรถพล กล่าว
รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องสอบสวนกันอย่างละเอียดจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าใครเกี่ยวบ้าง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คิดว่า การสืบสวนจริงๆไม่น่าจะยาก เพราะวงการค้าไม้หอมนั้นเป็นวงการเล็กๆ และค่อนข้างจำกัด ใครซื้อ ใครขายก็จะรู้กันหมดว่าออกมาจากไหน อย่างไร
