ทช.ประกาศป่าชายเลน 48 กลุ่ม 2.8 ล้านไร่ จับมืออุทยานฯสำรวจปะการัง 445 พื้นที่

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ทช.จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2561 มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ให้มีความเหมาะสม ตอบสนองต่อการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการประชุมมีประเด็นสำคัญ คือ แผนการดำเนินงานในการออกกฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ ตามมาตรา 18 และกำหนดมาตรการคุ้มครอง ตามมาตรา 23 ทช.ได้แบ่งพื้นที่ป่าชายเลน ที่รับผิดชอบ ออกเป็น 48 กลุ่มป่า ใน 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล มีเนื้อที่รวมประมาณ 2.8 ล้านไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพ 1.53 ล้านไร่ และป่าชายเลนแปรสภาพ 1.3 ล้านไร่ มีแผนการดำเนินงานประกาศพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ให้แล้วเสร็จทั้งประเทศ ภายในปี 2563 ต่อมามีการกำหนดแนวทางการดำเนินงานประเมินสถานภาพทรัพยากรแนวปะการัง ทช. และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช(อส.) ได้ร่วมมือกันในการจัดทำแผนและแนวทางสำรวจและติดตามประเมินสถานภาพทรัพยากรแนวปะการังของประเทศไทย โดยทุก 2 ปี 6 เดือน จะต้องรายงานผลสถานภาพทรัพยากรต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการแผนปฏิรูปประเทศ และทุก 1 ปี จะสำรวจปะการังและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในแนวปะการัง โดยจะแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 445 พื้นที่ คือ ในพื้นที่อุทยานฯ ทางทะเล 252 สถานี ดำเนินการโดย อส. และนอกพื้นที่อุทยานฯ 193 สถานี ดำเนินการโดย ทช.

อธิบดี ทช.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะมีการบูรณาการป้องกันแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งร่วมกับ 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล โดยจากการสำรวจพื้นที่กัดเซาะชายฝั่ง ในปี 2560 พบว่า มีชายฝั่งที่ประสบปัญหาการกัดเซาะและยังไม่ได้รับการป้องกันและแก้ไขปัญหา ระยะทางประมาณ 145.73 กม. แบ่งเป็นระดับรุนแรง 42.17 กม. ระดับปานกลาง 7.45 กม. และพื้นที่กัดเซาะน้อย 96.11 กม. พื้นที่ที่อยู่ในระดับเร่งด่วน 31 พื้นที่ ใน 16 จังหวัด ระดับปานกลาง 10 พื้นที่ และระดับเฝ้าระวัง 85 พื้นที่ ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ได้เสนอแผนงาน/โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561-2565 ทั้งสิ้น 287 โครงการ วงเงิน 14,860.931 ล้านบาท รวมทั้งมีการออกกฎหมายลำดับรอง ตามมาตรา 16 ภายใต้ พรบ.ทช.58 เพื่อเป็นการสนับสนุนชุมชนชายฝั่งและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการบริหารจัดการ การปลูก การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟู และ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image