สสส. เร่งหารือ สตง. บรรเทาความเดือดร้อนภาคี “สรรพากรพื้นที่”

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุน หรือบอร์ด สสส. มอบหมายให้ สสส. ประสานสำนักงานตรวจสอบเงินแผ่นดิน(สตง.) และกรมสรรพากร ภายหลังที่ประชุมบอร์ด สสส. หารือในระเบียบวาระการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ว่า ตนจะเร่งประสานไปยัง สตง. และกรมสรรพากร เพื่อขอหารือแนวทางแก้ไข ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านรองนายกฯ ที่ได้ให้ทิศทาง และคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคีเครือข่าย สสส. ทำให้คนทำงานสร้างเสริมสุขภาพมีขวัญกำลังใจ ทั้งนี้ สสส. ถูกออกแบบให้เป็นองค์กรกองทุนของรัฐที่ทำงานสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตามแผนและยุทธศาสตร์ที่บอร์ดวางแนวทางไว้ โดยการพัฒนาข้อเสนอโครงการ หรือรับข้อเสนอโครงการเข้ามา และ สสส. เป็นผู้พิจารณาก่อนสนับสนุนงบประมาณออกไป ในรูปแบบของ “ข้อตกลงของ สสส.” มิใช่ “สัญญาจ้างทำของ” ตามที่ สตง. เพิ่งจะมาตีความใหม่ และที่ผ่านมา สสส. ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำส่งรายได้ให้รัฐอย่างครบถ้วนมาโดยตลอด

“สตง.เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีตามกฎหมายของ สสส.มาตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2544 แต่ไม่เคยทักท้วงในประเด็นภาษีนี้ซึ่ง สสส. ก็ปฏิบัติในแนวทางเดียวกับกองทุนภาครัฐอื่นๆ ที่ก่อตั้งมาก่อนใช้ปฏิบัติอยู่ กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการตีความในช่วงปลายปี 2557 ที่ระบุว่า “ข้อตกลงดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพ” เป็น “สัญญาจ้างทำของ” และวงเงินงบประมาณทั้งหมดที่ สสส. สนับสนุนให้แก่ภาคีเครือข่ายถือเป็นรายได้ของภาคี พร้อมส่งเรื่องให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีอากรจากภาคีเครือข่าย สสส. ที่มีทั้งประชาชนทั่วไป ผู้พิการ ผู้สูงอายุ พระสงฆ์ และองค์กรต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้ในปี 2558 นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้รองนายกฯ ที่เป็นประธานบอร์ด สสส.ในขณะนั้น ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และใช้เวลาตรวจสอบรอบด้านราว 1 ปีเศษ และรายงานสรุปต่อบอร์ดชี้ว่า งบประมาณการสนับสนุนโครงการต่างๆ ยังคงเป็นเงินของ สสส. โดยภาคีเครือข่ายเป็นผู้นำไปดำเนินการแทน ยกเว้นส่วนที่กำหนดไว้ชัดเจนในโครงการว่าเป็นรายได้/ค่าตอบแทนของภาคี ในส่วนนี้ได้มีการหักภาษีไว้อยู่แล้ว และประธานบอร์ดได้แจ้งผลสอบต่อ สตง. และกรมสรรพากรไปแล้วตั้งแต่ มกราคม 2560 โดยทั้งสองหน่วยงานไม่เคยมีข้อโต้แย้งใดๆ กลับมา” ทพ.สุปรีดา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image