“พญาเสือ” เผย “แก๊งเจ้าสัว” ล่าเสือดำทุ่งใหญ่ เปิบ “ตัวเดียวอันเดียว” เสือดำ

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด มหาชน ว่า จากแนวคิดและประสบการณ์หลังการเข้าไปเก็บหลักฐานในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะของนายเปรมชัยพร้อมพวกเข้าไปในป่าอย่างย่ามใจ ไม่คิดว่ามีใครกล้ายุ่งด้วย แต่ป่าทุ่งใหญ่มีประวัติในเรื่องราวความลึกลับ ในศาสตร์ของความศรัทธา ความรักและความหวงแหนที่คนบางกลุ่มอาจมองไม่เห็น เมื่อไล่เรียงลำดับเหตุการณ์เริ่มจากวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มของนายเปรมชัยเดินทางถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ลงไปติดต่อขอผ่านตามที่ขอมา เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้เข้าตามปกติที่ได้รับการร้องขอ จึงไม่ได้สงสัยในพฤติการณ์ของคนกลุ่มนี้แต่อย่างใด เนื่องจากมีคนหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่นคนที่เข้าป่าทุ่งใหญ่เพื่อไปพักผ่อนและเพื่อฟื้นฟูบำบัดจิตใจหลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยจากเมืองกรุง

นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า แต่ความปรารถนาดีที่เจ้าหน้าที่มีต่อนายเปรมชัยนั้น จึงไม่ทราบอาจได้ว่านายเปรมชัยกับพวกได้ตระเตรียมของใช้พร้อมอุปกรณ์การล่าสัตว์ไปเต็มคันรถ ประกอบไปด้วย ปืน 3 กระบอก มีด 6 เล่ม เกลือใช้หมัก 4 ถุง หม้อ กระทะ ชุดเครื่องครัว การย่าง เครื่องแกงพร้อม เพื่อไปหาของกินข้างหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่มีแต่รอยยิ้มและหวังว่าคณะของนายเปรมชัยจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของป่าทุ่งใหญ่ตามแนวทางของนักอนุรักษ์ที่เจ้าหน้าที่ทุกคนรักษาไว้ด้วยชีวิต อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อคณะของนายเปรมชัยเดินทางเข้าป่าไปสักครู่ เมื่อลับตาเจ้าหน้าที่ คณะของนายเปรมชัยได้เริ่มนำอาวุธออกมายิงสัตว์ป่า โดยหนึ่งในนั้นเป็นพรานที่ชำนาญพื้นที่ และได้เริ่มยิงไก่ฟ้าหลังเทาด้วยปืนลูกซองแฝดเบอร์ 20 เป็นอย่างแรก ก่อนจะเดินทางต่อไปถึง กม.ที่ 22 อีก 8 กม.จะถึงแคมป์มหาราช เป็นช่วงเวลาราว 17.00 น. ได้เห็นเสือดำซึ่งคาดว่าจะอยู่ห่างจากรถไม่เกิน 10 ม. และกลุ่มพรานได้ยิงเสือดำจนตาย

หัวหน้าชุดพญาเสือกล่าวว่า ลูกน้องของนายเปรมชัยได้นำเสือดำมาชำแหละบนผ้ายางใกล้ห้วยแห้งในร่องลึกที่พอจะหลบสายตาคนอื่นได้ โดยชำแหละอย่างชำนาญ เลาะเอาแต่ส่วนเนื้อที่ไม่ยอมให้ติดหนัง แม้กระทั่งข้อต่อกระดูกแต่ละข้อ เกือบจะไม่ใช้มีดสับกระดูกเลย มีการดึงเอาเครื่องในออก ทิ้งไว้ใกล้ๆ จุดชำแหละ นำเกลือมาคลุกหนังเสือที่ชำแหละ ในเวลาเดียวกันนายเปรมชัยรู้สึกปวดท้อง จึงได้ไปนั่งอุจจาระหน้ารถยนต์ข้างถนน ซึ่งจุดดังกล่าวมีหินและเป็นหลุมลึก ในขณะที่ลูกน้องผู้หญิงพยายามหยิบส้วมนั่งที่เตรียมไว้ แต่หยิบออกมาไม่ทัน เพราะมีสิ่งของอื่นวางทับอยู่จำนวนมาก จุดนี้ใช้เวลาพอสมควร เมื่อเวลาในป่าเกิน 17.00 น.นั้นเป็นเวลาที่เริ่มมืด จึงพากันหาที่พัก เดินทางไปไม่ไกล เพียง 400 ม. ก็เจอที่พัก ติดลำธารมีน้ำ มีฟืน พร้อม ตั้งแคมป์ กางเต็นท์ที่พัก และปรุงอาหาร

“มีการเอาเนื้อขาขวาหลังที่ชำแหละจากเสือดำ เลาะเนื้อออกจากกระดูก เอาเฉพาะเนื้อมาย่างกิน ส่วนหางเสือดำได้นำไปปรุงเป็นซุปหางเสือดำ หรือหากชอบแบบต้มยำสามารถใส่เครื่องปรุงตามใจชอบ ทั้งนี้กลุ่มพรานไม่ได้มาเพื่อกินหางหรือเนื้อเสือดำเท่านั้น เป้าหมายต้องการกินตัวเดียวอันเดียวของเสือดำด้วย สรุปคือกลุ่มพรานได้กินอวัยวะเพศผู้ของเสือดำ หาง เนื้อสะโพก และขาขวาหลัง ส่วนเนื้อไก่ฟ้าหลังเทาแทบจะไม่สนใจและไม่หยิบเลยในอาหารมื้อเย็นของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งตนจะส่งบันทึกนี้ไปประกอบในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย” นายชัยวัฒน์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image