ผลดีเอ็นเอ”งาช้าง”ของ”เปรมชัย”ส่อช้างแอฟริกา เล็งแจ้งอีกข้อหา แถลงพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผย ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก 4 คน ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ว่า สิ่งที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ขอย้ำว่ากรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ พร้อมด้วยพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะที่ปรึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบสำนวน พยานหลักฐาน ทั้งหมด เพื่อให้คดีมีความรัดกุมรอบคอบยิ่งขึ้น สำหรับความผิดที่ได้แจ้งความกับนายเปรมชัยและพวกไปแล้วรวม 9 ข้อหา ส่วนจะมีการเพิ่มข้อหาหรือไม่ ต้องรอผลการประชุม โดยอยากให้สื่อมวลชนมารอสัมภาษณ์ พล.อ.สุรศักดิ์ ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าวในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

รายงานข่าวจาก ทส.แจ้งว่า ขณะนี้ทีมปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ตรวจสอบสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) งาช้างที่ตรวจยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย จำนวน 4 กิ่ง หรือ 2 คู่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกาทั้ง 2 คู่ ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม มาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษสูงสุดจำคุก 4 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ประเทศไทยได้แก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เมื่อปี 2557 เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้างาช้างแอฟริกาซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติผิดกฎหมาย ตามข้อตกลงของคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) และกรมอุทยานฯ จะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับนายเปรมชัยในฐานความผิดดังกล่าวต่อไป โดยความผิดฐานครอบครองงาช้างแอฟริกามีโทษสูงกว่าความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ 2557 ที่ไม่สามารถดำเนินคดีกับนายเปรมชัยได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image