เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย ร้องเรียนว่ามีโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ออกประกาศเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 เรียกเก็บเงินมัดจำในการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท โดยอ้างว่าโรงพยาบาลขาดทุน ทำให้ผู้ป่วยโรคไตในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เดือดร้อน ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นเรื่องจริง แต่มีการทำความเข้าใจกันแล้ว ขณะนี้โรงพยาบาลดังกล่าวได้ยกเลิกประกาศไปแล้ว จากนี้ก็ต้องมาดูว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ขาดทุนเพราะเหตุใด
“ขณะนี้โรงพยาบาลก็มีการตั้งของบประมาณสำหรับรักษาผู้ป่วยเพิ่ม ต้องมาดูมาเทียบกันด้วยว่า ที่ขอมานั้น ราคากลางของ สปสช.เป็นอย่างไร แล้วทำไมโรงพยาบาลอื่นๆ ถึงไม่มีปัญหา ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องราคากลางการรักษาผู้ป่วยโรคไตนั้นมีคณะกรรมการทบทวนอยู่แล้ว ยืนยันว่าเรื่องการรักษาผู้ป่วยโรคใตในระบบบัตรทองนั้น สปสช.ให้สิทธิครอบคลุมทั้งหมดอยู่แล้ว ทั้งเรื่องของยา เรื่องการล้างไตทางหน้าท้อง การฟอกเลือดที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการผ้าตัดทำเส้นเลือดด้วย ผู้ป่วยไม่ต้องจ่าย หรือสำรองจ่ายเลย เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะมีสำนักงานกลางเป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว” นพ.ศักดิ์ชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการรายงานในที่ประชุมบอร์ด สปสช.ครั้งล่าสุด เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโรคไตสูงเกินเงินในกองทุน ดังนั้นต้องทบทวนเรื่องค่าใช้จ่ายหรือไม่ เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ค่ารักษาผู้ป่วยโรคไตนั้นเป็นกองทุนเฉพาะที่แยกจากงบเหมาจ่ายรายหัว โดยมีงบ 4-5 พันล้านบาท ซึ่งใช้การใช้จ่ายจะบางช่วงสูง บางช่วงก็สูงไม่มาก ซึ่งจากการใช้จ่ายในปี 2560 สรุปยอดสิ้นปีงบประมาณ พบว่าค่าใช้จ่ายอยู่ในวงเงินดังกล่าวไม่ได้สูงจนเกินวงเงินงบแต่อย่างใด
