ความคืบหน้าข้อเรียกร้องปรับปรุงสิทธิทันตกรรมของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) โดยเฉพาะขอให้ยกเลิกการสำรองจ่ายของผู้ประกันตนจำนวนเงิน 600 บาทต่อปีนั้น
ล่าสุด ทพ.อดิเรก ศรีวัฒนาวงษา นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า น่าเห็นใจผู้ประกันตน ที่ผ่านมา แวดวงทันตแพทย์พูดกันมากถึงเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าวงเงินค่าทันตกรรมปีละ 600 บาท ยังไม่ครอบคลุมการบริการทันตกรรม โดยเฉพาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ที่สำคัญการให้ผู้ประกันตนสำรองจ่ายก็เป็นปัญหา ได้เงินคืนล่าช้า แต่เรื่องนี้หาก สปส.จะปรับปรุงควรให้ครอบคลุมถึงสิทธิการรักษาพยาบาลอื่นๆ ด้วย
“สปส.ต้องเพิ่มวงเงินบริการทันตกรรม ส่วนจะจำนวนเท่าไรนั้น ต้องพิจารณาตามค่าครองชีพ และการรักษาจริง ณ ปัจจุบัน และต้องพิจารณาบางหัตถการที่มีความจำเป็นเกี่ยวกับช่องปาก ก็ต้องให้สิทธิผู้ประกันตนด้วย สำหรับข้อเรียกร้องยกเลิกสำรองจ่ายนั้น ควรประสานกับคลินิกเอกชนในเรื่องราคากลาง รวมทั้งพิจารณาขั้นตอนการจ่ายเงินค่ารักษาคืนให้แก่คลินิกเอกชนด้วย” ทพ.อดิเรกกล่าว และว่า ปัจจุบัน สปส.มีบุคลากรที่รู้เรื่องการรักษาพยาบาลไม่มาก ทำให้ระบบบริการด้านสุขภาพมีปัญหาหลายด้าน จึงเสนอว่าควรถ่ายโอนส่วนการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนไปให้สำนักงานหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดูแล เพราะเชี่ยวชาญกว่า แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการยุบรวมกองทุนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีควรนำเรื่องการปฏิรูปประกันสังคมเข้าสู่การปฏิรูปประเทศด้วย หรือไม่ ทพ.อดิเรกกล่าวว่า ควรอย่างยิ่ง เพราะหากปฏิรูปได้ จะเป็นประโยชน์กับคนในวัยทำงานทั้งหมดที่จ่ายเงินเข้าระบบประกันสังคม เพราะที่ผ่านมา ระบบประกันสังคมเป็นระบบบังคับการทำประกัน ผู้ประกันตนต้องจ่ายสมทบอัตโนมัติ โดยบังคับหักจากเงินเดือน แม้จะมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากสุขภาพ แต่จะดีกว่าหรือไม่ที่ผู้ประกันตนควรได้รับสิทธิในการดูแลสุขภาพที่ดีและ ครอบคลุมเหมือนประชากรที่ สปสช.ดูแล
