วันที่ 14 มีนาคม นส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า หลังจาก เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.)ที่ 4 (ชุมพร) พบลูกช้างป่า อายุไม่เกิน30 วัน พลัดหลงจากโขลงบริเวณพื้นที่ หมู่10 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ติดกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จึงช่วยกันดูแลเอาไว้ก่อน และในขณะเดียวกันก็เตรียมวางแผนและหาทางนำลูกช้างคืนสู่โขลง
นส.กาญจนา กล่าวว่า วันที่ 13 มีนาคม เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว และอาสาสมัครจากชุมชนรอบพื้นที่ ติดตามหาโขลงช้างป่า โขลงของพังบุญมากก่อนพลัดหลงกัน และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่พบโขลงช้าง และทำคอกสำหรับพังบุญมาก ในการเตรียมส่งลูกช้างกลับโขลง
“กระทั่ง เช้าวันที่ 14 มีนาคม เจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ร่วมกับอาสาสมัครในพื้นที่ นำพังบุญมากมาที่คอกบริเวณใกล้เคียงกับป่าที่พบโขลงช้างป่า โดยมีชาวบ้านมาให้กำลังใจพังบุญมาก ให้ได้กลับบ้านอยู่กับแม่ เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่ สบอ.4 พร้อมด้วยผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้นำลูกช้างไปปล่อยในกรงพร้อมอาหารเพื่อล่อโขลงช้างบริเวณบ้านขุนไกร ม.8 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร โดยให้ชุดเฝ้าช้างของอุทยานแห่งชาติหงาวและจิตอาสาพลัดดันให้ฝูงช้างมายังบริเวณดังกล่าว ซึ่งปรากฎว่าเวลาประมาณ 16.30 น. โขลงช้างได้มาพบกับพังบุญมา โดยได้ทำลายคอกและรับเจ้าพังบุญมาเข้าโขลงในเวลา17.30 น.แม่ช้างได้ให้นมแก่พังบุญมาบริเวณเดิม ยังไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ซึ่งชุดเฝ้าระวังช้างจะติดตามฝูงช้าง เพื่อติดตามพฤติกรรมช้างต่อไป” นส.กาญจนา กล่าว
วันที่ 13 มีนาคม เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว และอาสาสมัครจากชุมชนรอบพื้นที่ ติดตามหาโขลงช้างป่า โขลงของพังบุญมากก่อนพลัดหลงกัน และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่พบโขลงช้าง และทำคอกสำหรับพังบุญมาก ในการเตรียมส่งลูกช้างกลับโขลง
เช้าวันที่ 14 มีนาคม เจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ร่วมกับอาสาสมัครในพื้นที่ นำพังบุญมากมาที่คอกบริเวณใกล้เคียงกับป่าที่พบโขลงช้างป่า โดยมีชาวบ้านมาให้กำลังใจพังบุญมาก ให้ได้กลับบ้านอยู่กับแม่
