เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ที่โรงเรียนเปาโรหิตย์ เขตบางพลัด ซึ่งมีประธานมูลนิธิท่านน้อยเปาโรหิตย์ และเจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด ผู้บริหารเขตบางพลัดและผู้เกี่ยวข้องร่วม ว่า มูลนิธิท่านน้อยเปาโรหิตย์และเจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) ได้ให้การสนับสนุนจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ทั้งการปรับปรุงอาคารและการแสดงนิทรรศการ โดยได้เก็บรักษาอนุรักษ์ไว้ซึ่งโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5-7 ก่อนโอนมอบให้ กทม.ดูแล ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ชั้นล่างจัดแสดงความเป็นมาของเขตบางพลัดตั้งแต่อดีต โดยจุดเด่นจะอยู่ชั้นบนของพิพิธภัณฑ์ โดยได้รวบรวมชีวประวัติและคุณงามความดีของเจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) ไว้
“สำหรับท่านอวบ เปาโรหิตย์ รับราชการครั้งแรกเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เมื่อปี 2442 ด้วยวัยเพียง 23 ปี แล้วเลื่อนขั้นเป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลนครราชสีมา ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย อุปราชมณฑลภาคอีสาน สมุหเทศภิบาลมณฑลพายัพและสมุหพระนครบาล โดยได้รับราชการรับใช้ใน 3 แผ่นดิน ตั้งแต่รัชกาลที่ 5-รัชกาลที่ 7 ก่อนถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปี 2476 โดยเจ้าพระยามุขมนตรีได้สร้างคุณาปการอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมากมาย อาทิ โรงพยาบาลในภาคอีสาน คุกบางขวาง เป็นต้น” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า นอกจากนี้ เจ้าพระยามุขมนตรียังเป็นบุคคลที่ 6 ที่ยืนในการพิธีโล้ชิงช้าที่หน้าศาลาว่าการ กทม.ด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างปรับปรุงและบูรณะเสาชิงช้า ด้วยการทาสีใหม่ และล่าสุดได้หารือร่วมกับ รศ.นวลศิริ เปาโรหิตย์ ว่าจะรื้อฟื้นพิธีโล้ชิงช้า ซึ่งได้ยกเลิกไปเมื่อปี 2475 อีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลรายละเอียดจากประวัติศาสตร์
