เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายณรงค์ จันทร์เล็ก นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า แสงซินโครตรอน เป็นแสงที่ใช้ในการวิเคราะห์ วิจัยด้านวัสดุ ซึ่งมีความพิเศษต่างจากแสงอื่นๆ เช่น มีความสว่างและความเข้มแสงสูงมาก สามารถจะวิเคราะห์ตัวอย่างได้ลึกถึงระดับโมเลกุล หรืออะตอมของวัสดุ ล่าสุด สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงสนใจนำตัวอย่างอัญมณีสังเคราะห์ที่มีการฟ้องร้องเรื่องของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ส่งให้สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนช่วยตรวจสอบหาความจริง
“อัญมณี หรือรัตนชาติ มาจากแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ นำมาผ่านการเจียระไน ขัดมัน แกะสลัก และนำมาใช้เป็นเครื่องประดับ มีคุณสมบัติที่สำคัญคือ ความสวยงาม ความคงทนถาวร และความหายาก นอกจากนี้ คุณค่าและราคาของอัญมณีแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและลักษณะจำเพาะของอัญมณี เช่น สี ความโปร่งแสง ความวาว การกระจายของแสง เป็นต้น ปัจจุบันมีผู้ประดิษฐ์คิดค้นวิธีสังเคราะห์อัญมณีให้เหมือนกับธรรมชาติมากที่สุด ตั้งแต่สี ความใส องค์ประกอบทางเคมี และโครงสร้างภายใน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ได้วิเคราะห์และทดสอบองค์ประกอบทางเคมีของธาตุภายในอัญมณีสังเคราะห์ดังกล่าว ด้วยเทคนิคการดูดกลืนรังสีเอกซ์ ร่วมถึงเทคนิคแอลเอไอซีพีแมสสเปกโตรมิเตอร์ และเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ ที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จ.นครราชสีมา เพื่อหาลักษณะเฉพาะของอัญมณีสังเคราะห์แต่ละประเภท และจากการวิเคราะห์พบว่า อัญมณีสังเคราะห์แต่ละประเภทที่ดีเอสไอได้รับการร้องเรียนนั้น มีองค์ประกอบทางเคมีของธาตุไม่เหมือนกับในอนุสิทธิบัตร ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสืบสวนความจริง ซึ่งจะช่วยไขคดีที่มีความลึกซึ้งทางวิทยาศาสตร์” นายณรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ นายณรงค์ กล่าวว่า วิธีนี้ถือได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการสืบคดีด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่ใช้แสงซินโครตรอนในการวิเคราะห์ตรวจสอบ เพราะแสงซินโครตรอนสามารถแยกแยะองค์ประกอบทางเคมีของตัวอย่างได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ยังสามารถวัดสารตัวอย่างแม้จะมีอยู่ในปริมาณน้อยมากๆ ได้ อีกทั้งยังไม่ทำลายสารตัวอย่างอีกด้วย
