คพ.เตือนภัย ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี

คพ. แจ้งเตือนประชาชนที่ประกอบกิจกรรมการเกษตรและการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้ระมัดระวังการประกอบกิจกรรมทางน้ำเมื่อเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี อาจเกิดอาการคันและระคายเคืองต่อผิวหนัง และควรหลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์น้ำที่จับจากบริเวณที่เกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสี อาจปวดท้องและท้องเสียได้ ซึ่งจะพบบ่อยใน จ.ระยอง ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และในบริเวณ จ.ชลบุรี ช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน ของทุกปี

วันที่ 21 เมษายน นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) เปิดเผยว่า คพ.ได้แจ้งเตือนประชาชนที่ประกอบกิจกรรมการเกษตรและการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้ระมัดระวังการประกอบกิจกรรมทางน้ำเมื่อเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี ซึ่งจะพบในบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยพบบ่อยใน จ.ระยอง ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และในบริเวณ จ.ชลบุรี ช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน ของทุกปี เมื่อเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี แพลงตอนพืช(สาหร่ายขนาดเล็ก) จะมีปริมาณมากบริเวณผิวน้ำ ทำให้แสงแดดส่องไปสู่ใต้น้ำได้น้อยลง อีกทั้งเมื่อแพลงตอนพืชตายลงและถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลาย ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำน้อยจนเกิดภาวะขาดออกซิเจน ทำให้น้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น สัตว์น้ำบริเวณนั้นขาดออกซิเจนและอาจตายได้ เกิดผลกระทบกับการท่องเที่ยวและการประมง โดยผู้ประกอบกิจกรรมทางน้ำควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางน้ำเมื่อสังเกตเห็นน้ำทะเลเปลี่ยนสี เพราะอาจเกิดอาการคันและระคายเคืองต่อผิวหนังได้ และควรหลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์น้ำที่จับจากบริเวณที่เกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสี เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินแพลงตอนบางชนิดที่ส่งผลให้ผู้บริโภคอาจปวดท้องและท้องเสียได้

นางสุณีกล่าวว่า ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากแพลงตอนพืชที่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลมีการเจริญเติบโตและแพร่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมชุมชน เกษตรกรรม โรงงานอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ประกอบกับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งแสงแดดและอุณหภูมิของน้ำ ทำให้แพลงตอนพืชเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกว่า “แพลงตอนบลูม” ส่งผลให้น้ำทะเลบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ผิดไปจากธรรมชาติ ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของแพลงตอนพืช โดยส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทยคือ น้ำทะเลมักเปลี่ยนเป็นสีเขียวและสีน้ำตาลแดง

Advertisement

สุณี ปิยะพันธุ์พงศ์

นางสุณีกล่าวต่อว่า แนวทางการจัดการปัญหาการเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี สามารถทำได้โดย 1.กำหนดมาตรการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ ไม่ให้มีการระบายปริมาณสารประกอบไนเตรทและฟอสเฟตมากเกินไป 2.ควรมีการเข้มงวดในการควบคุม กำกับ ดูแลการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากเกษตรกรรม ชุมชน และโรงงานอุตสาหกรรม และ 3.ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพดิน ชนิดพืช เวลาที่ต้องการ รวมทั้งวิธีการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง ทั้งนี้ การจัดการปัญหาดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการ เกษตรกร และประชาชนที่ประกอบกิจกรรมทางน้ำ เพื่อร่วมกันบรรเทาปัญหาที่จะเกิดจากปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image