เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีองค์การบริหารส่งตำบล (อบต.) พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ออกข้อบัญญัติให้เป็นพื้นที่ควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ.2535 กำหนดให้ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว สามารถเลี้ยงสุนัขและแมวได้ไม่เกิน 2 ตัว พร้อมดูแลควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น หากผ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ว่า ในส่วน กทม.ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว อย่างไรก็ดี กทม.ได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงสุนัขหรือปล่อยสุนัข พ.ศ.2548 โดยเจ้าของสุนัขจะต้องนำสุนัขไปฝังไมโครชิป (บัตรประจำตัวสัตว์เลี้ยงอิเล็กทรอนิกส์) และจดทะเบียนสุนัขที่คลินิกสัตว์แพทย์ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สามารถระบุตัวสุนัขได้ และเพื่อควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข หากฝ่าฝืนมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 5,000 บาทเช่นกัน
“ซึ่งการออกข้อบัญญัติถือ เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขฯ โดยตามกฎหมายจะกำหนดกรอบให้ปฎิบัติ แต่ส่วนท้องถิ่นจะออกข้อบัญญัติหรือกฎหมายลูก โดยเฉพาะเจาะจงและให้เหมาะสมอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่” นายทวีศักดิ์ กล่าวและว่า ในด้านการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนเกี่ยวกับข้อบัญญัติดังกล่าวนั้น กทม.ยังจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์เป็นวงกว้างและเผยแพร่ข่าวสารอย่างเข้มข้น เพื่อแจ้งให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงไปขึ้นทะเบียนยังคลินิกสัตว์แพทย์ ส่วนนี้ได้กำชับให้สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กทม.ดำเนินการเพิ่มเติม
“แต่คงไม่ถึงขั้นที่ กทม.จะเข้าไปตรวจค้นตามบ้านเพื่อตรวจตราสัตว์เลี้ยงว่าได้นำมาขึ้นทะเบียนแล้วหรือไม่ คงไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากการเข้าตรวจค้นบ้านนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล หากไม่มีเหตุอันสมควร กทม.จะเข้าไปตรวจค้นสัตว์โดยพลการไม่ได้ นอกจากนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กทม.ได้จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่อฉีดวัคซีน ทำหมันและฝังไมโครชิปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสัตว์ที่ได้รับการฝังไมโคร
ชิปแล้วกว่า 100,000 ตัว” นายทวีศักดิ์ กล่าว
