‘บิ๊กโย่ง’ ฟันธงวีกหน้ารู้ผลสอบบิ๊กพม. พร้อมเริ่มเบิกจ่ายเงินอุดหนุนพม.ผ่านอีเพลเมนต์ 1พ.ค.นี้ 

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวระบบจ่ายเงินอุดหนุนถึงผู้รับบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Krungthai Corporate Online ว่า การปรับเปลี่ยนการจ่ายเงินอุดหนุนผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Krungthai Corporate Online จากเดิมที่ให้โดยเจ้าหน้าที่นั้น ถือเป็นไปตามนโยบายรัฐ เพื่อให้เกิดการบริการที่ดี มีความโปร่งใสในการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน ลดขั้นตอนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้การช่วยเหลือเข้าถึงผู้ประสบปัญหาได้โดยเร็ว และสามารถตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินได้โดยง่าย เพราะทุกรายการเบิกจ่ายจะถูกบันทึกในระบบธนาคาร

รมว.พม.กล่าวอีกว่า โดยการจ่ายเงินอุดหนุน มี 4 ขั้นตอน คือ 1.การเข้าถึงสิทธิของผู้ประสบปัญหาทางสังคม ซึ่งผู้ประสบปัญหาเดือดร้อน สามารถยื่นขอความช่วยเหลือจากศูนย์ด้วยตัวเอง หรือประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่/เครือข่าย 2.การตรวจสอบสิทธิโดยนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อดูว่าประสบปัญหาจริงหรือไม่ และบันทึกข้อมูลในระบบ นำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนภาคครัวเรือนส่วนกลางหรือภูมิภาคพิจารณา และบันทึกในระบบธนาคาร 3.การให้สวัสดิการตามสิทธิ โดยจ่ายผ่านการโอนเข้าบัญชีของผู้ประสบภัย ผ่านระบบ Krungthai Corporate Online แต่ถ้าหากจำเป็นจ่ายเป็นเงินสด ต้องเป็นใน 3 กรณีเท่านั้น คือ ผู้ประสบปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ประสบภัยพิบัติ ขาดปัจจัยสี่ /ผู้ร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมหรือสื่อช่องทางต่างๆและผู้ตกทุกข์ได้ยากกลับภูมิเนาเดิม และ 4.การตรวจสอบความโปร่งใสในการได้รับสิทธิ์ ระบบนี้สามารถกำกับตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน ทุกรายงานจะถูกบันทึกในระบบธนาคารสามารถเรียกดูได้ทันทีหรือย้อนหลังได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ทุกกรมในพม.ที่มีการจ่ายเงินช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ให้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านระบบดังกล่าวในวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป

ถามถึงความคืบหน้าการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดพม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัดพม. กรณีถูกชี้มูลความผิดกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งนั้น พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลสรุปการสอบวินัยร้ายแรงจากคณะกรรมการอย่างเป็นทางการ ทราบแต่เพียงรายงานทางวาจาว่า ยังมีพยานเลื่อนให้ปากคำอีกจำนวนหนึ่ง จึงยังไม่แล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหาก 1-2 วันนี้สามารถสอบครบทุกปากหรือขึ้นอยู่ดุลยพินิจของกรรมการสอบสวน หากเห็นว่าข้อมูลเพียงพอครบถ้วน ไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่ม ก็อาจสรุปผลได้ทันทีใน 1-2 วันนี้ แต่หากเห็นว่าต้องสอบเพิ่ม ตนคงให้ขยายเวลาได้ไม่เกินภายในสัปดาห์หน้าจะต้องทราบผล ว่ามีความผิดทางวินัยระดับไหน ซึ่งตามระเบียบหากเป็นแบบไม่ร้ายแรงก็มีโทษตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน แต่หากเป็นวินัยร้ายแรง ก็มีโทษตั้งแต่ให้ออก หรือไล่ออก

Advertisement

รมว.พม.กล่าวอีกว่า แต่ทั้งนี้ ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อมีการกล่าวโทษก็จะให้ผู้ถูกกล่าวโทษนำหลักฐานที่แสดงความบริสุทธิ์ มาหักล้างภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้ง จากนั้นคณะกรรมการจะสรุปผลว่าข้อหักล้างนั้นฟังขึ้นหรือไม่ ซึ่งทุกอย่างจะเสร็จจบภายในเดือนพฤษภาคมนี้แน่นอน

ถามว่ากังวลหรือไม่หากผลสอบออกมาจะไม่เป็นไปตามคาดหวังของสังคม แล้วกระแสจะตีกลับมายังกระทรวงพม. พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเราตั้งใจจริง คณะกรรมการสอบวินัยร้ายร้ายก็ตั้งใจจริง ประชาชนต้องคาดหวังในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่คาดหวังว่าจะต้องผิด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องคาดหวังว่าเราจะดำเนินการต่อผู้ที่กระทำความผิดอย่างแท้จริง เพาะบางคนที่เขาทำความผิดเพราะถูกบังคับ ไม่ได้เต็มใจที่จะทำ ก็ต้องเข้าใจเขาด้วย ซึ่งเราจะลงโทษกลางๆเบาๆ หรือตามหลักของกฎหมาย นอกจากนี้ ประชาชนจะต้องคาดหวังว่า พม.โดยผู้บริหารพม. จะเอาจริงเอาจังต่อเรื่องดังกล่าวนี้ และดำเนินการให้ลุล่วงไปโดยเร็ว ตรงกับผู้กระทำความผิดอย่างแท้จริง ซึ่งใครผิดก้องว่าไปตามผิด ใครไม่ผิดก็ต้องว่าไปตามนั้น

Advertisement

ด้าน นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ระบบ Krungthai Corporate Online จะโอนเงินโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ประสบภัยที่มีบัญชีธนาคารกรุงไทยจะได้รับเงินในทันที ส่วนผู้ที่มีบัญชีของธนาคารอื่นจะได้รับเงินภายใน 2 วัน และเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ธนาคารกรุงไทยได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชีสำหรับผู้รับเงินอุดหนุนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ค่ารักษาบัญชีสำหรับผู้บัญชีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเมื่อเงินโอนเข้าผู้รับจะได้รับsmsเเจ้งเตือน ตามหมายเลขที่แจ้งไว้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ และในอนาคตอยู่ระหว่างจัดทำระบบให้สามารถรับเงินอุดหนุนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือใช้บัตร E-Money ได้อีกด้วย

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ต้องชื่นชม พม.ที่เข้าร่วมในโครงการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนทั้งหมดผ่านระบบอีเพลเมนต์ จากเดิมที่มีแค่โครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดที่จ่ายเงินผ่านระบบนี้ ซึ่งระบบนี้ถือเป็นสิ่งที่กรมพยายามเชิญชวนหน่วยงานราชการต่างให้มาร่วม และเห็นความสำคัญของการลดเบิกจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การทุจริตน้อยลง เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมีกระทรวงพม.เป็นต้นแบบ

ขณะที่ นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาโทษวินัยร้ายแรง ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น ภายหลังเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะพิจารณาได้ทันภายในเดือนเมษายนนี้ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว แต่ตนขอเปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของพม.ในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากในวันดังกล่าวจะต้องเสนอให้รักษาการปลัดพม.ลงนามในคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับผลสอบด้วย จึงขอพูดในคราวเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image