อดีตรองผู้ว่า-แกนนำกปปส. ค้านกทม.ยึดคืนหอศิลป์ ถามมีประสบการณ์แค่ไหน แนะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น

สืบเนื่องกรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครไปบริหารเอง โดยยืนยันว่าสามารถกระทำได้อย่างโปร่งใส กระทั่งเกิดกระแสคัดค้านจากศิลปิน และคนหลากหลายวงการ อีกทั้งมีการรณรงค์เข้าชื่อคัดค้านผ่านเว็บไซต์ change.org เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดผู้ลงชื่อมีจำนวน 10,368 ราย (เวลา 09.25 น.) สำหรับกระแสในโลกออนไลน์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีการแชร์ข้อเขียนจากเฟซบุ๊ก Taya Teepsuwan ของนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตแกนนำ กปปส. ซึ่งแสดงความเห็นคัดค้าน ดังนี้

Advertisement

“คัดค้าน กทม.ยึดคืนหอศิลป์จากมูลนิธิฯ

ในฐานะที่เคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ที่กำกับดูแลสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และทำงานร่วมกับมูลนิธิหอศิลป์มาตลอด 4 ปี บอกได้เลยว่า “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” กับการที่ กทม.จะดึงหอศิลป์มาบริหารงานเอง อย่าลืมว่าหอศิลป์เกิดจากเครือข่ายศิลปินที่มุ่งหวังให้กรุงเทพฯ มีพื้นที่ในการแสดงผลงาน ให้ปชช.ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติได้เสพงานศิลป์ที่มีคุณภาพภายใต้การบริหารงานของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านศิลปะอย่างแท้จริง และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้หอศิลป์จะไม่ได้สร้างกำไรมากมาย แต่จำนวนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปีจาก 300,000 คน ในปีที่เปิด จนเป็น 1.7 ล้านคน เมื่อปีที่แล้ว และการบริหารจัดการนิทรรศการและงานแสดงต่างๆก็มีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง…

Advertisement

ขอถามว่า…กทม.มีประสบการณ์และความสามารถในการบริหารงานลักษณะนี้แค่ไหน?

การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ได้มีการหารือเครือข่ายศิลปินที่ร่วมกันก่อตั้งและมูลนิธิที่บริหารงานอยู่ปัจจุบันแล้วหรือยัง?

งานศิลปะไม่ใช่เรื่องทางการปกครอง แต่รัฐควรสนับสนุนงบประมาณและให้ผู้ที่มีความรู้เฉพาะทางและประสบการณ์ตรงมาดำเนินงานหรือไม่?

งานของสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว มีมากมาย น่าจะเอาเวลาไปทำนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ดังกล่าวให้เต็มที่ไม่ดีกว่าหรือ งานศิลปะควรอยู่ในระบบราชการหรือไม่?

ในฐานะคน กทม.ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ทบทวนนโยบายที่จะเข้ามาบริหารจัดการหอศิลป์ด้วยค่ะ

ทยา ทีปสุวรรณ

13 พ.ค. 61”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image