กทม.ยันไม่ได้ฮุบหอศิลป์ แจงเหตุขอเข้าบริหารไม่เกี่ยวสกัดกิจกรรมทางการเมือง

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะดูแลรับผิดชอบสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กทม.เตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มาบริหารแทนมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธานกรรมการมูลนิธิ นายปัญญา วิจินธนสาร เป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิ และกรรมการ อีก 9 คน ว่า ผู้บริหาร กทม.จะมีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการบริหารหอศิลป์ ในที่ประชุมผู้บริหาร กทม.ครั้งที่ 12/2561 วันที่ 15 พฤษภาคม โดยสำนักวัฒนธรรมฯ จะรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมในที่ประชุม

“สำหรับแนวคิดการนำหอศิลป์ กลับมาบริหารเองนั้น ได้มีการพูดคุยกันหลายครั้ง เนื่องจาก กทม.ต้องอุดหนุนงบประมาณปีละ 40 ล้านบาท กระทั่งล่าสุด สภากรุงเทพมหานครไม่เห็นชอบให้ กทม.อุดหนุนงบประมาณเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่างบประมาณดังกล่าวทางมูลนิธิหอศิลป์ น่าจะนำไปทำกิจกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ทำให้หอศิลป์ได้รับการอุดหนุนงบประมาณในส่วนของรายจ่ายอื่นเท่านั้น อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น ประกอบการถูกสภา กทม.ตั้งข้อสังเกตว่าการลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เมื่อปี 2554 เพื่อมอบสิทธิให้มูลนิธิหอศิลป์ เป็นผู้บริหารจัดการเป็นเวลา 10 ปี โดยจะสิ้นสุดในปี 2564 นั้น ไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528” นายทวีศักดิ์กล่าว และว่า ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เล็งเห็นความยากลำบากของบรรดาของเหล่านักเรียนและนักศึกษาในการเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่หอศิลป์ ตามที่ให้ข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ คือ พื้นที่เรียนรู้ที่ทางหอศิลป์จำเป็นจัดหา แต่ที่ผ่านมากลับไม่มีการนำงบไปใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร จึงมีแนวคิดดังกล่าว

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวการนำหอศิลป์กลับมาบริหารเอง เพื่อเลี่ยงการจัดกิจกรรมและการเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น ยืนยันว่าไม่จริงเป็นเพียงกระแสข่าว เพราะหากย้อนกลับไปดูวัตถุประสงค์การจัดตั้งหอศิลป์แล้ว เพื่อเป็นพื้นที่ส่งเสริมความรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมหลากหลายแขนงแก่ประชาชน รวมถึงเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาใช้สอยดำเนินการกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากถามต่อว่า เมื่อ กทม.นำหอศิลป์ กลับมาบริหารเองแล้ว จะบริหารจัดการอย่างไรบ้างนั้น กทม.โดยสำนักวัฒนธรรมฯ จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เข้ามาบริหารจัดการ ตามนโยบาย กทม.ที่อยากให้มีพื้นที่เรียนรู้เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้น ส่วนพื้นที่ด้านศิลปะหรือการจัดกิจกรรมอื่นใดยังคงเป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิม ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวินมีแนวคิดเพียงอยากปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยรายละเอียดต่างๆ นั้น ผู้บริหาร กทม.และผู้เกี่ยวข้องจะร่วมพิจารณาโดยละเอียด

ผู้สื่อถามว่า ปัจจุบันกระแสการต่อต้านจากสังคมค่อนข้างรุนแรง เพื่อไม่ให้ กทม.นำหอศิลป์มาบริหารดูแล จะส่งผลให้ กทม.ชะลอเรื่องดังกล่าวออกไปหรือไม่ นายทวีศักดิ์กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นที่ กทม.จะต้องชะลอเรื่องดังกล่าว เพราะจำเป็นต้องมีการพูดคุยและพิจารณารายละเอียด ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะผู้บริหาร กทม.จะสรุปถึงแนวทางการดำเนินการหอศิลป์อย่างไรบ้างต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image