อย.ไม่ฟัน ‘เบลล่า’ โฆษณาเกินจริงหรือไม่ มอบตำรวจจัดการ

อย.ส่งข้อมูลให้ตำรวจกรณีผลิตภัณฑ์ “บีเคิร์ฟ” ส่วน “เบลล่า” ผิดหรือไม่ต้องดูหลักฐาน เพราะเข้าข่าย โฆษณาไม่ขออนุญาต -โอ้อวดเกินจริงรอรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม  ภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อบีเคิร์ฟ (Be curve) ของ เบลล่า-ราณี แคมเปน นักแสดงสาวชื่อดัง ร่วมเป็นเจ้าของ พบว่ามีการใช้ข้อความในการโฆษณาว่า “ชง ผอม” ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาฯ แต่เจ้าตัวระบุว่า เป็นการว่าจ้างบริษัทโฆษณาทำ และได้มีการตักเตือนไปแล้วนั้น  ว่า อย.ได้ส่งหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ไปแล้ว ซึ่งก็อยู่ที่ขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรวบรวมข้อมูล และเชิญคุณเบลล่า เพิ่มเติม

เมื่อถามว่าแต่หากดูตามกฎหมายถือว่าผิดการโฆษณาเกินจริงหรือไม่ ภก.สมชายกล่าวว่า  ต้องอยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนว่า ผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งในรายละเอียดที่ส่งให้ทางตำรวจนั้น ก็เป็นไปตามที่เคยบอกไปแล้วว่า ในส่วนการโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้น ถือว่ามีความผิดชัดเจน แต่การโฆษณาเป็นเท็จโอ้อวดเกินจริง ก็ต้องไปดูและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปสอบสวนเพิ่มเติมร่วมกับแง่วิชาการด้วย

เมื่อถามต่อว่าในอนาคตจะแก้กฎหมายห้ามดารารีวิวโฆษณาแบบใดบ้างด้วยหรือไม่  รองเลขาฯ อย.กล่าวว่า จริงๆ กฎหมายมีบอกอยู่แล้วว่า ผู้ใดโฆษณาเกินจริงก็จะมีความผิด แต่จะผิดอย่างไรก็ต้องอยู่ที่การสอบสวนหาข้อมูลหลักฐานว่า เขาเกี่ยวข้องอย่างไร หรือไม่เกี่ยวข้องอย่างไร รวมทั้งหลักฐานทางวิชาการประกอบ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าที่ผ่านมาดารามักจ้างบริษัทมาโฆษณาให้และเกิดเป็นปัญหาขึ้น จะดำเนินการอย่างไร ภก.สมชายกล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องไปดูในกฎหมาย ซึ่งระบุว่า ผู้ใดกระทำการโฆษณาเกินจริง ก็ต้องไปพิจารณาและดูตามหลักฐานว่า ไปถึงผู้เกี่ยวข้องอย่างไร

ภก.สมชายกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ว่า สำหรับการตรวจสอบมาตรฐานสถานที่ผลิต หรือโรงงานผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ผ่านมาได้ไปตรวจสอบโรงงานหรือสถานที่ผลิตที่มีการจดแจ้งจำนวนมากก่อน อย่างใน กทม.เราพบว่า มีโรงงานอยู่ 6 แห่ง มีรายการจดแจ้งจำนวนมากกว่า 1,000 รายการขึ้นไป แต่กลุ่มนี้ไม่ค่อยน่าห่วง เพราะเป็นโรงงานขนาดใหญ่  แต่จะมีผู้ผลิตรายเล็กประมาณ 25 แห่ง มีรายการจดแจ้งถึง  300 รายการขึ้นไป รวมทั้งผู้ผลิตรายเล็กอีก 100 แห่ง ที่มีรายการจดแจ้งอีก 100-300 รายการ ที่เหลือก็เป็นรายเล็กมีประมาณ 1-49 รายการ มีอยู่ประมาณ 2,722 แห่ง  ซึ่งเราก็จะตรวจสอบทั้งหมด แต่ในส่วนของภูมิภาคจะมีอีก 7,000 กว่าแห่ง เราก็จะประสานไปที่จังหวัดให้ตรวจสอบต่อไป ซึ่งต้องบอกก่อนว่า จำนวนตัวเลขผู้จดแจ้งเหล่านี้ยังไม่ได้พบว่ามีความผิด แต่เราจะเข้าไปตรวจสอบเพื่อความมั่นใจและให้เป็นไปตามมาตรฐาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการกำหนดรายการการจดแจ้งของแต่ละโรงงานไม่ให้มีจำนวนมากเกินหรือไม่ ภก.สมชายกล่าวว่า คงทำไม่ได้  แต่ อย.มีการตรวจสอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนที่มีคำถามว่า จะควบคุมให้โรงงานแต่ละแห่งจดแจ้งการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพประเภทใดประเภทหนึ่งได้หรือไม่นั้น ก็ต้องดูมาตรฐานการผลิตของแต่ละแห่ง เพราะหลายแห่งสามารถผลิตได้ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะแยกส่วนไลน์การผลิตชัดเจน และมีการขอการรับรองแต่ละประเภทอย่างถูกต้อง ตรงนี้ก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องได้รับโทษ มีการดำเนินคดี เพราะเรามีเกณฑ์การควบคุมอยู่ ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ของ “ลีน” และ “เมจิกสกิน” นั้นก็ได้มีการส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปดำเนินการต่อไปแล้ว

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image