‘อัศวิน’ ถกทีมกม.คดี ‘ตลาดบ้านป้าทุบรถ’ ตั้งกก.ตรวจคำสั่งศาลหาคนจ่ายค่าเสียหายใน10วัน(คลิป)

ความคืบหน้ากรณีศาลปกครองกลางพิพากษาให้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กับพวกรื้อถอนตลาด 5 แห่ง ภายใน 60 วัน นับจากวันพิพากษาสิ้นสุด พร้อมให้เยียวยาผู้ฟ้องร้อง 4 ราย รายละ 368,400 บาท นั้น

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เรียกประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ฝ่ายกฎหมาย กทม. สำนักงานเขตประเวศ และสำนักการโยธา หารือถึงคดีตลาดรอบบ้านป้าทุบรถ เขตประเวศ

หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัด กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งศาลกรณีป้าทุบรถ ซึ่งมีตนเป็นประธานคณะกรรมการ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะพิจารณาคำพิพากษาของศาลทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน ใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ข้อกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนของคำพิพากษาของศาลที่ กทม.ยอมรับคำตัดสินและจะถือปฏิบัติตามที่ศาลมีคำสั่ง และ 2.ค่าเสียหาย ในส่วนนี้ผู้ว่าฯ กทม.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการ พิจารณาว่ามีผลกระทบหรือว่า กทม.จะต้องปฏิบัติอย่างไร หรือเห็นด้วยกับคำพิพากษาหรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดกับอัยการที่ว่าความให้ กทม.ด้วย อีกทั้ง กทม.ก็อยากรับทราบความคิดเห็นของผู้ค้า หรือประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบตลาดด้วย เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของประชาชนเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ดังนั้นควรนำความคิดเห็นของประชาชนมาประกอบการพิจารณาด้วย

Advertisement

นายวันชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับคณะกรรมการฯ ชุดนี้ จะพิจารณาถึงความรับผิดชอบในส่วนของค่าเสียหายที่ กทม.จะต้องชดใช้ให้ผู้ร้อง ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าว จำนวน 15 คน มีทั้งอดีตผู้อำนวยการเขต อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาฯ และผู้อำนวยการเขต จึงต้องดูให้ละเอียดว่า ตั้งแต่ปี 2553 แต่ละช่วงเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ทั้งนี้ กทม.จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการละเมิดขึ้นมาเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นการทำความผิดในกรณีละเมิดหรือไม่

“หากเป็นกรณีละเมิด กทม.ก็จะให้ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 15 คน เป็นผู้ชดใช้ ซึ่งจะรับผิดชอบชดใช้ไม่เท่ากันแล้วแต่ระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ หากเกษียณแล้ว อาจรับผิดชอบเพียงฐานละเมิด ส่วนผู้ที่ยังไม่เกษียณอาจต้องรับผิดชอบทั้งละเมิด คดีแพ่ง หรือคดีอาญาด้วยหรือไม่ ซึ่งวินัยร้ายแรงอาจถึงขั้นไล่ออก ปลดออกได้ อย่างไรก็ตาม ข้อกฎหมายมีความละเอียดอ่อนกทม.จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย เพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป” นายวันชัย กล่าว

ส่วนกรณีการรื้อตลาดหรือไม่นั้น นายวันชัย กล่าวว่า ขณะนี้คำพิพากษายังไม่ถึงที่สุด ต้องดูว่าเจ้าของตลาดอุทธรณ์คำพิพากษาหรือไม่ หากเจ้าของตลาดไม่อุทธรณ์ หรือหากคำพิพากษาถึงที่สุดให้รื้อตลาดก็ต้องรื้อ โดยเจ้าของตลาดต้องเป็นผู้รื้อเองในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากครบกำหนดระยะเวลาในการรื้อตลาดแล้วเจ้าของตลาดยังไม่รื้อ กทม.ก็จะทำการรื้อและเรียกเก็บค่ารื้อตลาดจากเจ้าของตลาด ซึ่งตามหลักการ กทม.มีระยะเวลาในการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล 30 วัน ซึ่งตามข้อกฎหมายด้านคำตัดสิน กทม.ยอมรับ ส่วนเรื่องค่าเสียหายก็ต้องพิจารณาว่าใครต้องรับผิดชอบบ้างและรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ แล้วเสนอให้ผู้ว่าฯ กทม.พิจารณาต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image