อุทยานฯฟื้น ‘อ่าวมาหยา’ ชี้ช่วง4เดือน ฝ่าฝืนปรับ1พัน ผู้ประกอบการโวยทำนักท่องเที่ยวเข้าใจผิด

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และอ่าวมาหยา จ.กระบี่ เพื่อตรวจสอบพื้นที่และพิจารณาการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการท่องเที่ยวในบริเวณอ่าวมาหยา ณ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

นายจงคล้ายกล่าวว่า เนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติจะดำเนินการประกาศปิดอ่าวมาหยาในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและใต้ทะเลในช่วงฤดูมรสุม เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นมติจากที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากทรัพยากรแนวปะการังบริเวณอ่าวมาหยาได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากกิจกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ กิจกรรมการดำน้ำตื้น การทิ้งสมอเรือ การเข้า-ออกของเรือสปีดโบ๊ตและเรือหางยาวเพื่อรับส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละวันมีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3,000-4,000 คน หากไม่ดำเนินการแก้ปัญหาก็จะเป็นภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อการท่องเที่ยวอุทยานทางทะเลของประเทศไทย

นายทรงธรรมกล่าวว่า พื้นที่บนอ่าวมาหยามีเพียง 18 ไร่ จึงไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเช่นนี้ได้อีกต่อไป ซึ่งกรมอุทยานได้เตรียมแผนในการฟื้นฟูโดยได้นำทีมวิศวกรและสถาปนิกลงพื้นที่เพื่อออกแบบสะพานท่าเทียบเรือ บริเวณอ่าวโล๊ะซามะ และทางเดินศึกษาธรรมชาติยกระดับจากพื้นดินมายังบริเวณหน้าหาดให้เหมาะสมและกลมกลืนกับสภาพพื้นที่ และให้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด พร้อมทั้งจัดทำแปลงฟื้นฟูปะการัง โดยพิจารณาใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมด 80 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูอ่าวมาหยา 4 เดือน ห้ามเรือท่องเที่ยวเข้าไปภายในบริเวณหน้าหาดเกินกว่าบริเวณทุ่นไข่ปลาที่กำหนดไว้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,000 บาท โดยหลังเปิดการท่องเที่ยวจะมีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกินวันละ 2,000 คนต่อวัน โดยให้เข้าพื้นที่เป็นรอบๆ รอบละไม่เกิน 150-180 คน พร้อมทั้งจะเร่งพัฒนาระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันใช้ในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 นี้ นำร่องใน 3 พื้นที่ คือ อ่าวมาหยา อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานอ่าวพังงา และอุทยานสิมิลัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

Advertisement

ทั้งนี้ ระหว่างที่นายจงคล้าย พร้อมคณะ นำสื่อมวลชนเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติระหว่างบริเวณหน้าชายหาดไปยังอ่าวโล๊ะซามะ ที่จะเป็นสถานที่ที่จะก่อสร้างท่าเทียบเรือ ได้มีกลุ่มพิทักษ์พีพี นำโดยนายวุฒิศักดิ์ ทองเกิด ตัวแทนกลุ่มนำรายชื่อผู้ประกอบการท่อเที่ยวและชาวบ้านกว่า 700 รายชื่อ มายื่นหนังสือกับนายจงคล้ายถึงกรณีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะมีการปิดเกาะพีพี ทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยว โดยนายจงคล้ายอธิบายว่า ไม่ได้มีการปิดเกาะพีพีที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด 15 จุด แต่กรมอุทยานได้สั่งปิดแค่อ่าวมาหยาเท่านั้น เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติเป็นระยะเวลา 4 เดือน ทั่งนี้ กลุ่มพิทักษ์พีพีและชาวบ้านได้ช่วยกันฟื้นฟูดูแลและกระจายข่าวว่าปิดเพียงอ่าวมาหยา แต่ที่เหลืออีก 14 จุดแหล่งท่องเที่ยวก็ยังสามารถท่องเที่ยวได้เช่นเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณอ่าวมาหยายังคงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมากแม้จะไม่ใช่ช่วงวันหยุด จนเบียดเสียดกันอยู่บริเวณหน้าหาด รวมทั้งมีเรือวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวส่งเสียงดังอึกทึกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอุทยานหาดนพรัตน์ธาราสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานได้ถึงวันละกว่า 1.8 ล้าน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image