เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีการตั้งกระทรวงใหม่ โดยการควบรวม วท.กับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานให้ทุนวิจัยของประเทศทั้งหมด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นต้น ว่า เบื้องต้นชื่อกระทรวงใหม่ยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันว่าการควบรวมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0
“โครงสร้างกระทรวงใหม่ หากทำได้จะตอบโจทย์ของประเทศได้ เพราะมีเป้าหมายชัดเจน ที่สำคัญช่วยประหยัดงบประมาณที่มีอยู่จำกัด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ หรือก่อนจะมีการเลือกตั้ง โดยคาดว่าจะดำเนินการภายในเวลา 3 เดือน ซึ่งหลักๆ คือ ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อจัดตั้งกระทรวงใหม่ และปลดล็อก พ.ร.บ.เดิมที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนจากนี้จะมีการหารือกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งคณะทำงานการจัดตั้งกระทรวงใหม่” นายสุวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าจะเป็นการยุบรวม 2 กระทรวง นายสุวิทย์ กล่าวว่า กรณีนี้เรียกว่าการควบรวม หรือ Merge ในภาษาอังกฤษ อธิบายได้ว่า A+B = C ไม่ใช่การยุบรวมที่ A+B =A และหลังจากนี้ หากตั้งกระทรวงใหม่เรียบร้อย จะมีกระทรวงศึกษาธิการที่ดูแลเฉพาะการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษา ส่วนกระทรวงใหม่จะดูแลด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งจะรวมหมดทุกสายทั้งสายวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ด้วย
“สำหรับชื่อของกระทรวงใหม่ หรือใครจะเป็นหลักนั้นไม่สำคัญ เพราะเป้าหมายของผมคือ ประเทศได้ประโยชน์ และประชาชนได้ประโยชน์” นายสุวิทย์ กล่าว
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะมีการทำความเข้าใจกับบุคลากรในสังกัดอย่างไร นายสุวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนของ วท.ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง ซึ่งแม้จะไม่มีการตั้งกระทรวงใหม่ แต่ภายใน วท.ก็มีการปรับแผนการทำงานอยู่แล้วเช่นกัน
