หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ใช้สารพาราควอต สารคลอร์ไพริฟอส และจำกัดการใช้สารไกลโฟเซต ซึ่งเป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้น
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 369 องค์กร ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจที่การลงมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ปฏิเสธการแบนสารพิษร้ายแรงทั้งพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคณะทำงานจาก 4 กระทรวงหลัก รวมทั้งประชาคมวิชาการจากหลายสถาบัน ว่า เป็นการตัดสินใจทางนโยบายที่เอื้ออำนวยประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ค้าสารพิษ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรวม สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศว่าจะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
แถลงการณ์ ระบุว่าผลของการตัดสินใจนี้เป็นไปตามข้อเสนอของอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ซึ่งถูกตั้งขึ้นโดยมีตัวแทนที่มาจากกระทรวงเกษตรฯ เป็นหลัก มีการใช้เอกสารที่เป็นข้อมูลล้าสมัย ขัดแย้งกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความเป็นพิษและผลกระทบจากสารพิษเหล่านี้ รวมทั้งมีกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากสมาคมอารักขาพืชไทย ซึ่งเป็นสมาคมการค้าของบริษัทสารพิษ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ร่วมอยู่ในกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งอาจผิดพ.ร.บ.วัตถุอันตรายฯ มาตรา 12 ที่ระบุว่า กรรมการผู้มีส่วนได้เสียเป็นการส่วนตัวเรื่องใด กรรมการผู้นั้นไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในเรื่องนั้น
แถลงการณ์ระบุอีกว่า ผลการลงมติเช่นนี้สะท้อนโครงสร้างล้าหลังของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ไม่อาจปกป้องผลประโยชน์และสุขภาพของประชาชน แต่กลับเป็นเครื่องมือของกลุ่มบริษัทสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ จึงเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล สั่งการให้มีการทบทวนการลงมติที่เป็นไปอย่างไม่โปร่งใส บทบาทซ้อนทับ และมีผลประโยชน์ทับซ้อนนี้โดยเร็ว พร้อมกันนี้เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมกันเลิกซื้อสินค้าและบริการจากบริษัท หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส และเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงเจตนารมณ์และผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนทั่วประเทศร่วมกัน ตามวันเวลาที่จะประกาศต่อไป
