จากกรณีบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนได้ออกมาแคลื่อนไหวขึ้นป้ายหน้าโรงพยาบาลคัดค้านระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงาน หรือ ลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ 2561 ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 และแม้จะออกมายืนยันว่า ไม่กระทบต่อบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากระเบียบดังกล่าวยกเว้นกระทรวงสาธารณสุข เพราะมีการหารือกันมาก่อนและออกเป็นระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2561 แต่ปรากฏว่า ชมรมแพทย์ชนบท ชมรมผอ.โรงพยาบาลชุมชน และเครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 17 องค์กร ยังไม่เชื่อมั่นและยืนยันให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังแ และจะขอเดินทางไปยังกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งจะเดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สป.สธ.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ.รพท.) และโรงพยาบาลชุมชน(รพช.) กว่า 800 คน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานกระทรวง และลูกจ้างโดยใช้เงินนอกงบประมาณ 2561 โดยก่อนการประชุมได้มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไป ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน รวมทั้งชมรมแพทย์ชนบท มีนพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ จ.ขอนแก่น ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และนพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังในการประชุมครั้งนี้
ปรากฏว่าระหว่างการประชุมดำเนินไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง นพ.อารักษ์ ได้เริ่มแสดงความคิดเห็น และห่วงใยต่อกรณีระเบียบของกระทรวงการคลัง และกล่าวในทำนองต้องการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องและต่อสู้เพื่อบุคลากรกระทรวงฯ ซึ่งมีแพทย์บางกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นแพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปได้เดินออกจากห้องประชุม เพื่อมาหารือกันหน้าห้อง โดยหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์หน้าห้องว่า ควรพูดในประเด็นรายละเอียดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรกันดีกว่า ขณะที่หลายคนมองว่า อยากได้ข้อสรุปของเรื่องนี้
กระทั่งเวลา 11.30 น. นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เดินทางมาที่การประชุม พร้อมกล่าวว่า อยากนำสารของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งติดภารกิจ โดยขอขอบคุณพวกเราที่มาร่วมวันนี้เพื่อนำข้อมูลไปหารือต่อ เนื่องจากในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ นพ.ปิยสะกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จะเข้าหารือกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งผู้แทนจากที่ประชุม 5 คน เพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว
“ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังบอกด้วยว่าระเบียบของกระทรงวการคลังไม่ชัดเจน ทำให้ตีความยากและขอให้มีการปรับปรุง จึงต้องมีการหารือร่วมกัน” ปลัดสธ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีกลุ่มแพทย์บางส่วนจะไปเรียกร้องที่กระทรวงการคลังในวันที่ 1 มิถุนายน นพ.เจษฎา กล่าวว่า รอผลการหารือร่วมกันวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ หากทุกอย่างชัดเจนเชื่อว่าเรื่องก็จะจบ
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องยืนยันก่อนว่าข้อเรียกร้องของทางกลุ่มและบุคลากรต่างๆ ไม่ได้เกี่ยวกับข้องกับประเด็นการเมือง แต่เป็นการเรียกร้องเพราะเกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข การจ้างงานบุคลากร ซึ่งส่งผลต่อการบริการประชาชน และที่มาประชุมครั้งนี้ก็เพื่อต้องการเห็นความเป็นผู้นำของผู้บริหารกระทรวงฯ ซึ่งจากท่าทีวันนี้คิดว่าโอเค และตนก็จะขอไปรวมพูดคุยกับกระทรวงการคลังในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ โดยหากข้อสรุปไม่มีการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลัง ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิม คือ เรียกร้องที่กระทรวงการคลังวันที่ 1 มิถุนายนนี้อย่างแน่นอน และจะเดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยขอย้ำว่า การเรียกร้องเป็นสิทธิ การเดินเท้าก็จะไม่กระทบกับการสัญจรทางถนนแน่นอน
“ขอแสดงจุดยืนว่า 1.ต้องยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลัง และ2.ปรับแก้ระเบียบเงินบำรุงกระทรวงสาธารณสุข ในข้อที่ 10 เนื่องจากรายละเอียดไม่แตกต่างจากกระทรวงการคลังเลย เพราะมีการเอาไปผูกโยงให้การจ้างงานลูกจ้างต้องขออนุมัติจากกระทรวงการคลัง ดังนั้นต้องยกเลิก 2 ข้อนี้ เพราะหากไม่ยกเลิกเราก็ไม่มั่นใจว่า ต่อไปจะจ้างบุคลากรมาทำงานยังไง อย่างผมมีอาคารผู้ป่วยอายุรกรรม แต่พยาบาลไม่เพียงพอ ยังขาดอีกเป็น 10 คน แต่ไม่สามารถจ้างได้ ยิ่งมีกฎระเบียบนี้อีก จะจ้างยังไง สุดท้ายใครจะได้รับผลกระทบ ก็การบริการประชาชน” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคนมองว่าการเรียกร้องครั้งนี้จะร่วมกับกลุ่มอยากเลือกตั้งหรือไม่ นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ใครจะเอาไปโยงกับกลุ่มเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไรนั้นเราก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยว แต่ที่เรียกร้องเพราะเป็นเรื่องกระทรวงสาธารณสุข
